กลุ่มอินเทคค์ ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงาน ตลอดจนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้ร่วมงาน นักศึกษาฝึกงาน หรือบุคคลอื่นซึ่งพนักงาน และเพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่าเราจะให้ความคุ้มครองและปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และเพื่อเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กลุ่มอินเทคค์ จึงจัดทำประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) สำหรับกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับผู้ร่วมงาน นักศึกษาฝึกงาน หรือบุคคลอื่นซึ่งผู้ร่วมงาน (“ประกาศฯ”) โดยจัดทำขึ้นเพื่อชี้แจงรายละเอียด วิธีการจัดการและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่กลุ่มอินเทคค์ ได้รับมาจากท่าน รวมถึงชี้แจงวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และส่งต่อ ตลอดจนระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว เช่น การบันทึก การจัดระบบ การจัดเก็บ การปรับเปลี่ยนหรือการดัดแปลง การเรียกคืน การส่ง โอน การเผยแพร่หรือการทำให้สามารถเข้าถึงหรือพร้อมใช้งานโดยวิธีใด ๆ การจัดเรียง การนํามารวมกัน การจํากัดหรือการห้ามเข้าถึง การลบ หรือการทำลาย (“ประมวลผล”) และสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ กลุ่มอินเทคค์ ขอแนะนําให้ท่านอ่านและทำความเข้าใจถึงข้อกําหนดต่าง ๆ ภายใต้ประกาศฯ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ กลุ่มหรือประเภทของบุคคลที่กลุ่มอินเทคค์ทำการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ประกอบด้วย
3.1. กลุ่มอินเทคค์เก็บรวบรวม และรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
3.2. ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านจะได้รับการแจ้งถึงรายละเอียดต่าง ๆ ตามที่ระบุในประกาศฯ ฉบับนี้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จํากัดเฉพาะ วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือหากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกําหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอมจากท่านกลุ่มอินเทคค์จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน
3.3. ในกรณีที่กลุ่มอินเทคค์เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ก่อนวันที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วน บุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ กลุ่มอินเทคค์ จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิมที่กลุ่มอินเทคค์ได้แจ้งไว้แก่ท่านในการเก็บ รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งท่านมีสิทธิยกเลิกความยินยอม โดยติดต่อมายังกลุ่มอินเทคค์ตามรายละเอียดการติดต่อที่ระบุไว้ในข้อ 11 ของประกาศฯ ฉบับนี้ ทั้งนี้กลุ่มอินเทคค์ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคําขอยกเลิกความยินยอมของท่านและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ถูกเก็บรวบรวมและประมวลผลภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่าน ให้ไว้กับกลุ่มอินเทคค์ โดยตรง หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่กลุ่มอินเทคค์ เก็บรวบรวมจากท่านโดยอัตโนมัติ หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่กลุ่มอินเทคค์ได้รับมาจากบุคคลภายนอก ได้แก่
6.1. กลุ่มอินเทคค์อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดและตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมาย กำหนดให้แก่บุคคลและหน่วยงานดังต่อไปนี้
6.2 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่นจะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนด หรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกําหนดให้กระทำได้เท่านั้น ในกรณีที่กฎหมายกำหนดว่าต้องได้รับความยินยอมจากท่าน กลุ่มอินเทคค์จะขอความยินยอมจากท่านก่อน
6.3 ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น กลุ่มอินเทคค์จะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผยและเพื่อปฏิบัติตามมาตรฐานและหน้าที่การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ทั้งนี้ ในกรณีที่กลุ่มอินเทคค์ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ กลุ่มอินเทคค์จะดำเนินการเพื่อทำให้แน่ใจว่าประเทศปลายทาง องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ หรือเพื่อทำให้แน่ใจว่าการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด โดยในบางกรณีกลุ่มอินเทคค์อาจขอความยินยอมของท่านสำหรับการส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศดังกล่าว
กลุ่มอินเทคค์จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นๆ โดยระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลจะเปลี่ยนแปลงไปโดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ กลุ่มอินเทคค์จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะเวลาตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด (ถ้ามี) โดยคำนึงถึงอายุความตามกฎหมายสำหรับการดำเนินคดีที่อาจเกิดขึ้นจาก หรือเกี่ยวข้องกับเอกสารหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่กลุ่มอินเทคค์เก็บรวบรวมไว้ในแต่ละรายการ และโดยคำนึงถึงแนวปฏิบัติของ กลุ่มอินเทคค์และของภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภทเป็นสำคัญ
สำหรับพนักงานกลุ่มอินเทคค์จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่นิติสัมพันธ์ระหว่างท่านกับกลุ่มอินเทคค์สิ้นสุดลง แต่อย่างไรกลุ่มอินเทคค์ก็อาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบางส่วนเป็นระยะเวลาเกินกว่าระยะเวลาดังกล่าว หากกฎหมายอนุญาตหรือการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจําเป็นต่อการดำเนินการของกลุ่มอินเทคค์
สำหรับนักศึกษาฝึกงานกลุ่มอินเทคค์จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่นิติสัมพันธ์ระหว่างท่านกับกลุ่มอินเทคค์สิ้นสุดลง
สำหรับที่ปรึกษากลุ่มอินเทคค์จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่นิติสัมพันธ์ระหว่างท่านกับกลุ่มอินเทคค์สิ้นสุดลง
หลังจากครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวข้างต้น กลุ่มอินเทคค์จะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว จากการจัดเก็บหรือ ระบบของกลุ่มอินเทคค์และของบุคคลอื่นซึ่งให้บริการแก่กลุ่มอินเทคค์(ถ้ามี) หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่ สามารถระบุตัวท่านได้ เว้นแต่จะเป็นกรณีที่กลุ่มอินเทคค์สามารถเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ต่อไปตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด ทั้งนี้ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อมายังกลุ่มอินเทคค์ตามรายละเอียดการติดต่อที่ ระบุไว้ในข้อ 10 ของประกาศฯ ฉบับนี้
ในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิตามที่กำหนดไว้โดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ทั้งนี้ ท่านสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ของท่านได้ตามช่องทางที่กลุ่มอินเทคค์กำหนดในข้อ 10 โดยจะสามารถเริ่มใช้สิทธิได้ เมื่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับกับกลุ่มอินเทคค์ ซึ่งสิทธิต่าง ๆ มีรายละเอียด ดังนี้
ทั้งนี้กลุ่มอินเทคค์ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคําร้องขอใช้สิทธิของท่านและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
กลุ่มอินเทคค์อาจแก้ไขปรับปรุงแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เป็นครั้งคราว และเมื่อมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเช่นว่านั้น กลุ่มอินเทคค์จะประกาศให้ท่านทราบผ่านทางเว็บไซต์ของกลุ่มอินเทคค์และ/หรือแจ้งให้ท่านทราบผ่านทางอีเมล์ ทั้งนี้ หากจำเป็นต้องขอความยินยอมจากท่าน ทางกลุ่มอินเทคค์จะดำเนินการขอความยินยอมจากท่านเพิ่มเติมด้วย
ในกรณีที่มีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน การใช้สิทธิของท่าน หรือมีข้อร้องเรียนใด ๆ ท่านสามารถติดต่อกลุ่มอินเทคค์ได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้
กลุ่มอินเทคค์ ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้า หรือผู้มาติดต่อธุรกิจกับทางกลุ่มอินเทคค์ เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่าเราจะให้ความคุ้มครองและปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และเพื่อเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กลุ่มอินเทคค์ จึงจัดทำประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) สำหรับกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับคู่ค้า หรือผู้มาติดต่อธุรกิจกับทางกลุ่มอินเทคค์ (“ประกาศฯ”) โดยจัดทำขึ้นเพื่อชี้แจงรายละเอียด วิธีการจัดการและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่กลุ่มอินเทคค์ได้รับมาจากท่าน รวมถึงชี้แจงวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และส่งต่อ ตลอดจนระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว เช่น การบันทึก การจัดระบบ การจัดเก็บ การปรับเปลี่ยนหรือการดัดแปลง การเรียกคืน การส่ง โอน การเผยแพร่หรือการทำให้สามารถเข้าถึงหรือพร้อมใช้งานโดยวิธีใด ๆ การจัดเรียง การนํามารวมกัน การจํากัดหรือการห้ามเข้าถึง การลบ หรือการทำลาย (“ประมวลผล”) และสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ กลุ่มอินเทคค์ ขอแนะนําให้ท่านอ่านและทำความเข้าใจถึงข้อกําหนดต่าง ๆ ภายใต้ประกาศฯ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ข้อ 1 คำนิยาม
- “กลุ่มอินเทคค์ฯ” หมายถึง บริษัท อินเทคค์ โกลบอล จำกัด และ บริษัทย่อยตามงบการเงินรวมของบริษัทฯ รวมถึงบริษัทย่อยที่อยู่ในความควบคุมและบริหารงานของกลุ่มอินเทคค์ทั้งหมด ซึ่งต่อไปนี้ เรียกว่า “กลุ่มอินเทคค์ หรือ บริษัทฯ และ องค์กร
- กลุ่มอินเทคค์ หมายถึง นิติบุคคลหนึ่งนิติบุคคลใดหรือหลายนิติบุคคลดังต่อไปนี้
- บริษัท อินเทคค์ โกลบอล จำกัด
- บริษัท อินเทคค์สไวน์บรีดเดอร์ฟาร์ม จำกัด
- บริษัท อินเทคค์สไวน์ฟาร์ม จำกัด
- บริษัท อินเทคค์เพียวบรีดฟาร์ม จำกัด
- บริษัท อินเทคค์ ฟลาวมิลล์ จำกัด
- บริษัท อินเทคค์ ฟู้ดส์ จำกัด
- บริษัท แลบ อินเตอร์ จำกัด
- บริษัท อินเทคค์สไวน์บรีดเดอร์ฟาร์มลาว จำกัด(INTEQC SWINE BREEDER FARM LAOS Co., Ltd.)
- บริษัท อินเทคค์สไวน์ฟาร์มลาว จำกัด(INTEQC SWINE FARM Co., Ltd.)
- บริษัท อินเทคค์สไวน์บรีดเดอร์ฟาร์มเวียดนาม จำกัด
- บริษัท อินเทคค์ วีนา จำกัด(VINA JOINT STOCK Co., Ltd.)
- บริษัทย่อยซึ่งอยู่ใต้อำนาจการควบคุมของกลุ่มอินเทคค์
ภายในประเทศและต่างประเทศ ที่อยู่ในงบการเงินรวมของบริษัทฯ ทั้งหมด
- “ท่าน” หมายถึง ผู้ร่วมงาน นักศึกษาฝึกงาน อดีตผู้ร่วมงาน พนักงานสัญญาจ้าง ที่ปรึกษา กรรมการ ผู้บริหาร ผู้สมัครงานและบุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับผู้ร่วมงานของกลุ่มอินเทคค์
- “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
- “ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
- “ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล”หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
- “ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
- “กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง และให้หมายความรวมถึงกฎหมายฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใด ๆ ในอนาคต
ข้อ 2 กลุ่มหรือประเภทของบุคคลที่กลุ่มอินเทคค์ ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
ภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ กลุ่มหรือประเภทของบุคคลที่กลุ่มอินเทคค์ทำการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ประกอบด้วย
- 2.1 ผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้า ซึ่งหมายถึง บุคคลที่อาจเป็นคู่ค้ากับกลุ่มอินเทคค์ทั้งในกรณีที่บุคคลดังกล่าวได้แสดงเจตนาจะเข้าทำสัญญา และ/หรือจะลงทะเบียนเป็นคู่ค้าของกลุ่มอินเทคค์และในกรณีที่กลุ่มอินเทคค์เป็นฝ่ายเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยการตัดสินใจของกลุ่มอินเทคค์เช่น ผู้ให้บริการ ที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ วิทยากร คู่สัญญา หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นต้น
- 2.2. คู่ค้า ซึ่งหมายถึง บุคคลที่เข้าเสนอราคาเพื่อขายสินค้า และ/หรือให้บริการแก่กลุ่มอินเทคค์หรือได้ลงทะเบียนเป็นคู่ค้ากับทางกลุ่มอินเทคค์หรือมีความสัมพันธ์อื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันกับกลุ่มอินเทคค์เช่น ผู้ให้บริการ ที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ วิทยากร ผู้รับเหมา ผู้รับจ้างงานช่วง คู่สัญญา หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นต้น
- 2.3. ผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้าหรือคู่ค้า ซึ่งหมายถึง บุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องหรือเป็นตัวแทนของผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้าหรือคู่ค้า เช่น กรรมการ พนักงาน ตัวแทน หรือบุคลากรของผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้าหรือคู่ค้าซึ่งเป็นนิติบุคคล และให้หมายความรวมถึงผู้ที่ข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้จัดการ ผู้สั่งซื้อ ผู้รับสินค้า และผู้สั่งจ่ายเช็ค เป็นต้น
- 2.4. ผู้มาติดต่อ ซึ่งหมายถึง บุคคลภายนอกที่เข้ามาติดต่อกับทางกลุ่มอินเทคค์ เพื่อติดต่องาน ขอเข้าอาคาร ทำงานรับเหมาใน อาคาร หรือ ทำธุรกรรมใดๆกับกลุ่มอินเทคค์
ข้อ 3 วิธีที่กลุ่มอินเทคค์ เก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
3.1. กลุ่มอินเทคค์เก็บรวบรวม และรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
- (ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับกลุ่มอินเทคค์โดยตรง
ท่านอาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่กลุ่มอินเทคค์โดยตรง เช่น เมื่อท่านกรอกแบบฟอร์มต่าง ๆ ผ่านเว็บไซต์ หรือช่องทางอื่น เมื่อท่านเข้าทำสัญญากับกลุ่มอินเทคค์เมื่อท่านส่งมอบเอกสารและสำเนาเอกสารต่าง ๆ ซึ่งมีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏอยู่มาให้กับกลุ่มอินเทคค์เมื่อท่านสอบถามข้อมูล ให้ความเห็น หรือคำติชม หรือส่งข้อร้องเรียนต่อกลุ่มอินเทคค์ทางโทรศัพท์ อีเมล โทรสาร ทางไปรษณีย์ หรือแอปพลิเคชัน เป็นต้น
- (ข) ข้อมูลส่วนบุคคลที่กลุ่มอินเทคค์เก็บรวบรวมจากท่านโดยอัตโนมัติ
กลุ่มอินเทคค์อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอัตโนมัติ เช่น การจัดเก็บข้อมูลบันทึกภาพผ่านกล้องวงจรปิด (Closed-circuit television: CCTV) ที่ติดตั้งในพื้นที่อาคารสำนักงาน และพื้นที่ของสาขาต่าง ๆ การเก็บรวบรวมข้อมูลทางเทคนิค กิจกรรมและรูปแบบการเข้าชม ข้อมูลประวัติการใช้งานเว็บไซต์ (Browsing) ของท่านโดยอัตโนมัติโดยใช้คุกกี้ (Cookies) และเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน ทั้งนี้ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้ (Cookies Notice)” ของกลุ่มอินเทคค์
- (ค) ข้อมูลส่วนบุคคลที่กลุ่มอินเทคค์ได้รับมาจากบุคคลภายนอก
กลุ่มอินเทคค์อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากบุคคลภายนอก เช่น การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งข้อมูลสาธารณะ แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของท่าน หรือ แหล่งข้อมูลทางการค้า เป็นต้น
3.2. ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านจะได้รับการแจ้งถึงรายละเอียดต่าง ๆ ตามที่ระบุในประกาศฯ ฉบับนี้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือหากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอมจากท่าน กลุ่มอินเทคค์จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน
3.3. ในกรณีที่กลุ่มอินเทคค์เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ก่อนวันที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับกลุ่มอินเทคค์จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิมที่กลุ่มอินเทคค์ได้แจ้งไว้แก่ท่านในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิยกเลิกความยินยอมโดยติดต่อมายังกลุ่มอินเทคค์ตามรายละเอียดการติดต่อที่ระบุไว้ในข้อ 10 ของประกาศฯ ฉบับนี้ ทั้งนี้กลุ่มอินเทคค์ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำขอยกเลิกความยินยอมของท่านและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
ข้อ 4 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวม
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ถูกเก็บรวบรวมและประมวลผลภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่าน ให้ไว้กับกลุ่มอินเทคค์โดยตรง หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่กลุ่มอินเทคค์เก็บรวบรวมจากท่านโดยอัตโนมัติ หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่กลุ่มอินเทคค์ได้รับมาจากบุคคลภายนอก ดังนี้
- 4.1. ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล หมายเลขบัตรประจําตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง ลายมือชื่อ วันเกิด เป็นต้น
- 4.2. ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่อาศัยตามบัตรประชาชน ที่อยู่อาศัยตามทะเบียนบ้าน หมายเลขโทรศัพท์ โทรสาร อีเมลเป็นต้น
- 4.3. ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมการซื้อขาย เช่น รหัสคู่ค้า รายละเอียดของสินค้า หรือบริการที่ต้องการ รายละเอียดการส่งสินค้า หรือการให้บริการ เลขที่บัญชีธนาคาร และจำนวนเงิน เป็นต้น
- 4.4. ข้อมูลที่ใช้ประกอบเป็นหลักฐานในการลงทะเบียนเป็นคู่ค้ากับกลุ่มอินเทคค์หรือในการทำธุรกรรมต่าง ๆ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในสำเนาบัตรประชาชน เลขที่ประจำตัวผู้เสียภาษี สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาใบเปลี่ยนชื่อนามสกุล สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาหนังสือมอบอำนาจ สำเนาหนังสือรับรองกลุ่มอินเทคค์ ใบแจ้งหนี้ ใบเสร็จรับเงิน บิลเงินสดหรือใบแทนใบเสร็จรับเงิน เช็คและต้นขั้วเช็ค ใบสำคัญจ่าย สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร สำเนาบัตรกรรมการ ใบตอบรับการโอนเงิน สำเนาใบภพ.20 สำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพหรือธุรกิจต่าง ๆ และสัญญา เป็นต้น
- 4.5. ข้อมูลด้านเทคนิค เช่น ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP Address) และข้อมูลที่กลุ่มอินเทคค์ได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึงกัน เป็นต้น
- 4.6. ข้อมูลอื่น ๆ เช่น บันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV) เป็นต้น
ข้อ 5 วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
5.1. กลุ่มอินเทคค์จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ภายใต้ฐานทางกฎหมายดังต่อไปนี้ (รวมกันเรียกว่า “วัตถุประสงค์การประมวลผลขอมูลส่วนบุคคล”)
ข้อที่ |
วัตถุประสงค์ |
ฐานทางกฎหมาย |
1.1 |
เพื่อวัตถุประสงค์ในการรวบรวมรายชื่อผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้า ผู้มาติดต่อหรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน สำหรับการจัดซื้อจัดจ้างของกลุ่มอินเทคค์
หรือเพื่อการดำเนินการตามกระบวนการต่าง ๆ ก่อนเข้าทำสัญญา เช่น การขึ้นทะเบียนคู่ค้า การพิจารณาคุณสมบัติของคู่ค้า และ/หรือการทำสัญญาปกปิดความลับทางการค้าของกลุ่มอินเทคค์ เป็นต้น
|
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests) |
1.2 |
เพื่อความจำเป็นในการทำธุรกรรมระหว่างคู่ค้ากับกลุ่มอินเทคค์เช่น การลงทะเบียนคู่ค้ารายใหม่ หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน การตรวจสอบยืนยันตัวตน การตรวจสอบอำนาจ การมอบอำนาจและการรับมอบอำนาจ รวมทั้งเพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง การดำเนินการตามกฎ ระเบียบ และกระบวนการภายในต่าง ๆ ของกลุ่มอินเทคค์ |
การปฏิบัติตามสัญญา(Contractual Basis) |
1.3 |
เพื่อดำเนินการชำระค่าสินค้า/ค่าบริการให้แก่ คู่ค้า / จ่ายค่าจ้างวิทยากรสำหรับการฝึกอบรม หรือจ้างบริษัทขนส่งในการรับ-ส่งสินค้า บันทึกบัญชี ทำงบ นำส่งสรรพากร หรือส่งให้ผู้สอบบัญชีเข้ามาตรวจสอบ |
การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis) |
1.4 |
เพื่อการดำเนินการแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลคู่ค้าในระบบสารสนเทศของกลุ่มอินเทคค์ |
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests) |
1.5 |
เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาว่าจ้าง สัญญาบริการ สัญญาทางการค้าอื่น ๆ และความตกลงหรือความร่วมมือที่เกี่ยวข้อง ระหว่างกลุ่มอินเทคค์ และคู่สัญญา รวมถึงกระบวนการขอและพิจารณาเอกสารที่เกี่ยวข้องอันอาจมีข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการกลุ่มอินเทคค์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก |
การปฏิบัติตามสัญญา(Contractual Basis) |
1.6 |
เพื่อวัตถุประสงค์ในการติดต่อสื่อสารกับคู่ค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน |
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย(Legitimate Interests) |
1.7 |
เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของกลุ่มอินเทคค์และคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง อาทิ การนำส่งข้อมูลให้แก่สรรพากร การนำส่งข้อมูลตามที่เจ้าพนักงานรัฐร้องขอ การนำส่งข้อมูลเพื่อขอใบอนุญาตต่างๆตามการดำเนินการของบริษัท เป็นต้น |
การปฏิบัติตามกฎหมาย(Legal Obligation) |
1.8 |
เพื่อทำการเรียกเก็บเอกสารหลักฐานสำหรับการขออนุมัติเปิดโครงการ รายงานความคืบหน้าหรือการเปลี่ยนแปลงโครงการที่อาจจะเกิดขึ้น รวมถึงการตรวจสอบคุณสมบัติของทีมงานที่จะเข้าร่วมดำเนินงานในแต่ละโครงการ |
การปฏิบัติตามสัญญา(Contractual Basis) |
1.9 |
เพื่อจัดเก็บหลักฐานของผู้ที่เข้าพื้นเข้ามาดำเนินการภายในโครงการ รวมถึงเก็บไว้ใช้เป็นหลักฐานหากเกิดการฟ้องร้องในอนาคตเพื่อเป็นการป้องกันเกี่ยวกับความปลอดภัยและทรัพย์สินขององค์กร |
การปฏิบัติตามสัญญา(Contractual Basis) |
1.10 |
เพื่อการตรวจสอบดูแลความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยของบุคคล และทรัพย์สินของกลุ่มอินเทคค์ |
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests) การป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพบุคคล (Vital Interests) |
5.2. เนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่กลุ่มอินเทคค์จะดำเนินการประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนดตามข้อ 5.1 ข้างต้นในส่วนที่มีความเกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือสัญญาหรือมีความจำเป็นเพื่อเข้าทำสัญญากับท่าน เป็นข้อมูลที่จําเป็นต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่กลุ่มอินเทคค์อาจมีผลกระทบทางกฎหมาย หรืออาจทำให้กลุ่มอินเทคค์ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ภายใต้สัญญาที่ได้เข้าทำกับท่าน หรือไม่สามารถเข้าทำสัญญากับท่านได้ (บางกรณี) ในกรณีดังกล่าวกลุ่มอินเทคค์อาจมีความจำเป็นต้องปฏิเสธการเข้าทำสัญญากับท่าน หรือยกเลิกการซื้อขาย หรือการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับท่าน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
5.3. ในกรณีที่กลุ่มอินเทคค์จะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในลักษณะ และ/หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ข้างต้น กลุ่มอินเทคค์จะจัดให้มีนโยบายหรือประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม และ/หรือมีหนังสือไปยังท่านเพื่ออธิบายการประมวลผลข้อมูลในลักษณะดังกล่าว โดยท่านควรอ่านนโยบายหรือประกาศเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องร่วมกับประกาศฯ ฉบับนี้ และ/หรือหนังสือดังกล่าว (บางกรณี)
ข้อ 6 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
6.1. กลุ่มอินเทคค์อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดและตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมาย กำหนดให้แก่บุคคลและหน่วยงานดังต่อไปนี้
- (ก) หน่วยงานภายในกลุ่มอินเทคค์ทั้งนี้ให้รวมถึงผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง และ/หรือบุคลากรภายในของกลุ่มอินเทคค์ดังกล่าวเท่าที่เกี่ยวข้อง และตามความจำเป็นเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- (ข) คู่ค้าทางธุรกิจ ผู้ให้บริการ และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่กลุ่มอินเทคค์มอบหมายหรือว่าจ้างให้ทำหน้าที่บริหารจัดการ/ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่กลุ่มอินเทคค์ในการให้บริการต่างๆ เช่น การให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ บริการชําระเงิน บริการรับส่งไปรษณีย์ บริการรับส่งพัสดุ หรือบริการอื่นใดที่อาจเป็นประโยชน์ต่อท่าน หรือเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของกลุ่มอินเทคค์ อาทิ ธนาคารพาณิชย์
- (ค) ที่ปรึกษาของกลุ่มอินเทคค์เช่น ที่ปรึกษากฎหมาย ทนายความ ผู้ตรวจสอบบัญชี หรือ ผู้เชี่ยวชาญอื่นใด ทั้งภายในและภายนอกของกลุ่มอินเทคค์เป็นต้น
- (ง) หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลตามกฎหมาย หรือที่ร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย หรือที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย หรือที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมสรรพากร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด ศาล และกรมบังคับคดี เป็นต้น
- (จ) บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดที่ท่านให้ความยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลหรือหน่วยงานนั้น ๆ
6.2. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่นจะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนด หรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกําหนดให้กระทำได้เท่านั้น ในกรณีที่กฎหมายกำหนดว่าต้องได้รับความยินยอมจากท่าน กลุ่มอินเทคค์จะขอความยินยอมจากท่านก่อน
6.3. ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น กลุ่มอินเทคค์จะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผยและเพื่อปฏิบัติตามมาตรฐานและหน้าที่การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ทั้งนี้ ในกรณีที่กลุ่มอินเทคค์ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ กลุ่มอินเทคค์จะดำเนินการเพื่อทำให้แน่ใจว่าประเทศปลายทาง องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ หรือเพื่อทำให้แน่ใจว่าการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด โดยในบางกรณีกลุ่มอินเทคค์อาจขอความยินยอมของท่านสำหรับการส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศดังกล่าว
ข้อ 7 ระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
กลุ่มอินเทคค์จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ โดยระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลจะเปลี่ยนแปลงไปโดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้กลุ่มอินเทคค์จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะเวลาตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด (ถ้ามี) โดยคำนึงถึงอายุความตามกฎหมายสำหรับการดำเนินคดีที่อาจเกิดขึ้นจาก หรือเกี่ยวข้องกับเอกสารหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่กลุ่มอินเทคค์เก็บรวบรวมไว้ในแต่ละรายการ และโดยคำนึงถึงแนวปฏิบัติขอ กลุ่มอินเทคค์และของภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภทเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ กลุ่มอินเทคค์จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่นิติสัมพันธ์ระหว่างท่านกับกลุ่มอินเทคค์สิ้นสุดลง อย่างไรก็ดี กลุ่มอินเทคค์อาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเกินกว่าระยะเวลาดังกล่าวหากกฎหมายอนุญาตหรือการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจำเป็นต่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องทางกฎหมายของกลุ่มอินเทคค์
หลังจากครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวข้างต้น กลุ่มอินเทคค์จะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว จากการจัดเก็บหรือ ระบบของกลุ่มอินเทคค์และของบุคคลอื่นซึ่งให้บริการแก่กลุ่มอินเทคค์(ถ้ามี) หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่ สามารถระบุตัวท่านได้ เว้นแต่จะเป็นกรณีที่กลุ่มอินเทคค์ สามารถเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ต่อไปตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด ทั้งนี้ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อมายังกลุ่มอินเทคค์ ตามรายละเอียดการติดต่อที่ ระบุไว้ในข้อ 10 ของประกาศฯ ฉบับนี้
ข้อ 8 สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูล
ในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิตามที่กำหนดไว้โดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ทั้งนี้ ท่านสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ของท่านได้ตามช่องทางที่กลุ่มอินเทคค์กำหนดในข้อ 11 โดยจะสามารถเริ่มใช้สิทธิได้ เมื่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับกับกลุ่มอินเทคค์ซึ่งสิทธิต่าง ๆ มีรายละเอียด ดังนี้
-
(ก) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (Right to Withdraw Consent)
ในกรณีที่ กลุ่มอินเทคค์ขอความยินยอมจากท่าน ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับกลุ่มอินเทคค์ได้ เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน
(ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย)
-
(ข) สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Access)
ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกลุ่มอินเทคค์รวมถึงขอให้กลุ่มอินเทคค์เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลดังกล่าวที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อกลุ่มอินเทคค์ได้
-
(ค) สิทธิในการขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล (Data Portability Right)
ท่านมีสิทธิขอให้กลุ่มอินเทคค์โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับกลุ่มอินเทคค์ได้ตามที่กฎหมายกำหนด
-
(ง) สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Object)
ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลที่เกี่ยวกับท่านสำหรับกรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนได้ตามที่กฎหมายกำหนด
-
(จ) สิทธิในการขอลบข้อมูลส่วนบุคคล (Erasure Right)
ท่านมีสิทธิขอให้กลุ่มอินเทคค์ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตาม กลุ่มอินเทคค์อาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งอาจมีบางระบบที่ไม่สามารถลบข้อมูลได้ ในกรณีเช่นนั้น กลุ่มอินเทคค์จะจัดให้มีการทำลายหรือทำให้ข้อมูลดังกล่าวกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้
-
(ฉ) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Restrict Processing)
ท่านมีสิทธิขอให้กลุ่มอินเทคค์ระงับการใช้ข้อมูลของท่านได้ตามที่กฎหมายกำหนด
-
(ช) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Right to Rectification)
กรณีที่ท่านเห็นว่าข้อมูลที่กลุ่มอินเทคค์มีอยู่นั้นไม่ถูกต้องหรือท่านมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเอง ท่านมีสิทธิขอให้กลุ่มอินเทคค์แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
ทั้งนี้กลุ่มอินเทคค์ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคําร้องขอใช้สิทธิของท่านและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
ข้อ 9 การแก้ไขเปลี่ยนแปลงแบบแจ้งฉบับนี้
กลุ่มอินเทคค์อาจแก้ไขปรับปรุงแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เป็นครั้งคราว และเมื่อมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเช่นว่านั้น กลุ่มอินเทคค์จะประกาศให้ท่านทราบผ่านทางเว็บไซต์ของกลุ่มอินเทคค์และ/หรือแจ้งให้ท่านทราบผ่านทางอีเมล์ ทั้งนี้ หากจำเป็นต้องขอความยินยอมจากท่าน ทางกลุ่มอินเทคค์จะดำเนินการขอความยินยอมจากท่านเพิ่มเติมด้วย
ข้อ 10 วิธีการติดต่อ
ในกรณีที่มีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน การใช้สิทธิของท่าน หรือมีข้อร้องเรียนใด ๆ ท่านสามารถติดต่อกลุ่มอินเทคค์ได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer)
- ที่อยู่: 77/12 หมู่ 2 ถ.พระราม 2 ต.นาโคก อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร 74000
- โทรศัพท์ : (66)34 886 132 กด 8
- อีเมล: dpo@inteqc.com
กลุ่มอินเทคค์ ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่ร่วมกับ กลุ่มอินเทคค์และเพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่าเราจะให้ความคุ้มครองและปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และเพื่อเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กลุ่มอินเทคค์จึงจัดทำประกาศฯเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) สำหรับกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าของกลุ่มอินเทคค์ (“ประกาศฯ”) โดยจัดทำขึ้นเพื่อชี้แจงรายละเอียด และวิธีการจัดการและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่กลุ่มอินเทคค์ ได้รับมาจากท่าน รวมถึงชี้แจงวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และส่งต่อ ตลอดจนระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว อาธิเช่น การบันทึก การจัดระบบ การจัดเก็บ การปรับเปลี่ยนหรือการดัดแปลง การเรียกคืน การส่ง โอน การเผยแพร่หรือการทำให้สามารถเข้าถึงหรือพร้อมใช้งานโดยวิธีใด ๆ การจัดเรียง การนํามารวมกัน การจํากัดหรือการห้ามเข้าถึง การลบ หรือการทำลาย (“ประมวลผล”) และสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ กลุ่มอินเทคค์ ขอแนะนําให้ท่านอ่านและทำความเข้าใจถึงข้อกําหนดต่าง ๆ ภายใต้ประกาศฯ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ข้อ 1 คำนิยาม
- “กลุ่มอินเทคค์ฯ” หมายถึง บริษัท อินเทคค์ โกลบอล จำกัด และ บริษัทย่อยตามงบการเงินรวมของบริษัทฯ รวมถึงบริษัทย่อยที่อยู่ในความควบคุมและบริหารงานของกลุ่มอินเทคค์ทั้งหมด ซึ่งต่อไปนี้ เรียกว่า “กลุ่มอินเทคค์ หรือ บริษัทฯ และ องค์กร
- กลุ่มอินเทคค์ หมายถึง นิติบุคคลหนึ่งนิติบุคคลใดหรือหลายนิติบุคคลดังต่อไปนี้
- บริษัท อินเทคค์ โกลบอล จำกัด
- บริษัท อินเทคค์สไวน์บรีดเดอร์ฟาร์ม จำกัด
- บริษัท อินเทคค์สไวน์ฟาร์ม จำกัด
- บริษัท อินเทคค์เพียวบรีดฟาร์ม จำกัด
- บริษัท อินเทคค์ ฟลาวมิลล์ จำกัด
- บริษัท อินเทคค์ ฟู้ดส์ จำกัด
- บริษัท แลบ อินเตอร์ จำกัด
- บริษัท อินเทคค์สไวน์บรีดเดอร์ฟาร์มลาว จำกัด(INTEQC SWINE BREEDER FARM LAOS Co., Ltd.)
- บริษัท อินเทคค์สไวน์ฟาร์มลาว จำกัด(INTEQC SWINE FARM Co., Ltd.)
- บริษัท อินเทคค์สไวน์บรีดเดอร์ฟาร์มเวียดนาม จำกัด
- บริษัท อินเทคค์ วีนา จำกัด(VINA JOINT STOCK Co., Ltd.)
- บริษัทย่อยซึ่งอยู่ใต้อำนาจการควบคุมของกลุ่มอินเทคค์
ภายในประเทศและต่างประเทศ ที่อยู่ในงบการเงินรวมของบริษัทฯ ทั้งหมด
- “ท่าน” หมายถึง ผู้ร่วมงาน นักศึกษาฝึกงาน อดีตผู้ร่วมงาน พนักงานสัญญาจ้าง ที่ปรึกษา กรรมการ ผู้บริหาร ผู้สมัครงานและบุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับผู้ร่วมงานของกลุ่มอินเทคค์
- “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
- “ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
- “ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล”หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
- “ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
- “กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง และให้หมายความรวมถึงกฎหมายฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใด ๆ ในอนาคต
ข้อ 2 กลุ่มหรือประเภทของบุคคลที่กลุ่มอินเทคค์ ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
ภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ กลุ่มหรือประเภทของบุคคลที่กลุ่มอินเทคค์ฯทำการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ประกอบด้วย
-
2.1 ลูกค้า ซึ่งหมายถึง บุคคลที่ดำเนินการจ้าง หรือใช้บริการจากกลุ่มอินเทคค์หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เช่น ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ผู้ใช้บริการเว็บไซต์ ผู้ที่ติดต่อเพื่อขอรับข้อมูลหรือขอรับบริการจากกลุ่มอินเทคค์ และผู้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับดำเนินการจ้าง หรือใช้บริการของกลุ่มอินเทคค์เป็นต้น
-
2.2 ผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า ซึ่งหมายถึง บุคคลที่เกี่ยวข้องหรือเป็นตัวแทนของลูกค้า เช่น ผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ตัวแทน หรือบุคลากรใดๆ ของลูกค้าซึ่งเป็นนิติบุคคล และให้หมายความรวมถึงผู้ที่ข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้จัดการ ผู้สั่งซื้อ ผู้รับบริการ ขนส่ง และผู้สั่งจ่ายเช็ค เป็นต้น
-
2.3 ผู้ที่คาดว่าจะเป็นลูกค้า ซึ่งหมายถึง บุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องหรือเป็นตัวแทนของผู้ที่คาดว่าจะเป็นลูกค้า เช่น กรรมการ พนักงาน ตัวแทน หรือบุคลากรของผู้ที่คาดว่าจะเป็นลูกค้าหรือลูกค้าซึ่งเป็นนิติบุคคล และให้หมายความรวมถึงผู้ที่ข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้จัดการ ผู้สั่งซื้อ ผู้ซื้อสินค้า และผู้สั่งจ่ายเช็ค เป็นต้น
-
2.4 ผู้ที่มาติดต่อ ซึ่งหมายถึง บุคคลภายนอกที่เข้ามาติดต่อกับทางกลุ่มอินเทคค์ เพื่อติดต่องาน ขอเข้าอาคาร เยี่ยมชมโรงงาน หรือ ทำธุรกรรมใดๆกับกลุ่มอินเทคค์
ข้อ 3 วิธีที่กลุ่มอินเทคค์ เก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
3.1. กลุ่มอินเทคค์เก็บรวบรวม และรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
-
(ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับกลุ่มอินเทคค์โดยตรง
-
(1) เมื่อท่านติดต่อสื่อสาร สอบถามข้อมูล ให้ความเห็นหรือคำติชมแก่กลุ่มอินเทคค์ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารเป็นในรูปแบบลายลักษณ์อักษรหรือวาจา โทรศัพท์ อีเมล โทรสาร ไปรษณีย์ การพบปะกันโดยตรง หรือโดยวิธีการอื่นใด
-
(2) เมื่อท่านแสดงเจตนาเพื่อดำเนินการจ้าง หรือใช้บริการจากกลุ่มอินเทคค์ เข้าทำสัญญากับกลุ่มอินเทคค์หรือส่งมอบเอกสารต่าง ๆ ซึ่งมีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏอยู่มาให้แก่กลุ่มอินเทคค์ฯ
-
(3) เมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาด การร่วมงานอีเว้นท์ รับของรางวัล หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่จัดขึ้นโดยหรือในนามของกลุ่มอินเทคค์ เป็นต้น
-
(ข) ข้อมูลส่วนบุคคลที่กลุ่มอินเทคค์เก็บรวบรวมจากท่านโดยอัตโนมัติ
กลุ่มอินเทคค์อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอัตโนมัติ เช่น การจัดเก็บข้อมูลบันทึกภาพผ่านกล้องวงจรปิด (Closed-circuit television: CCTV) ที่ติดตั้งในพื้นที่อาคารสำนักงาน และพื้นที่ของสำนักงานกลุ่มอินเทคค์ในเครือ การเก็บรวบรวมข้อมูลทางเทคนิค กิจกรรมและรูปแบบการเข้าชม ข้อมูลประวัติการใช้งานเว็บไซต์ (Browsing) ของท่านโดยอัตโนมัติโดยใช้คุกกี้ (Cookies) และเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน ทั้งนี้ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ "นโยบายการใช้คุกกี้ (Cookies Notice)" ของกลุ่มอินเทคค์
-
(ค) ข้อมูลส่วนบุคคลที่กลุ่มอินเทคค์ได้รับมาจากบุคคลภายนอก
กลุ่มอินเทคค์อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากบุคคลภายนอก เช่น
-
(1) การเก็บข้อมูลจากผู้ให้บริการต่าง ๆ ของกลุ่มอินเทคค์ เช่น ผู้ให้บริการประชาสัมพันธ์ และแนะนำสินค้า/บริการ เป็นต้น
-
(2) ในบางกรณีกลุ่มอินเทคค์อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งข้อมูลสาธารณะ แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของท่าน หรือแหล่งข้อมูลทางการค้า ไม่ว่าท่านจะเป็นผู้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลด้วยตนเองหรือได้ให้ความยินยอมแก่ผู้ใดในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังกล่าว
3.2. ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านจะได้รับการแจ้งถึงรายละเอียดต่าง ๆ ตามที่ระบุในประกาศฯ ฉบับนี้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือหากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอมจากท่าน กลุ่มอินเทคค์จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน
3.3. ในกรณีที่กลุ่มอินเทคค์เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ก่อนวันที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับกลุ่มอินเทคค์จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิมที่กลุ่มอินเทคค์ได้แจ้งไว้แก่ท่านในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิยกเลิกความยินยอมโดยติดต่อมายังกลุ่มอินเทคค์ตามรายละเอียดการติดต่อที่ระบุไว้ในข้อ 10 ของประกาศฯ ฉบับนี้ ทั้งนี้กลุ่มอินเทคค์ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำขอยกเลิกความยินยอมของท่านและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
ข้อ 4 ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ถูกเก็บรวบรวมและประมวลผลภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่าน ให้ไว้กับกลุ่มอินเทคค์โดยตรง หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่กลุ่มอินเทคค์เก็บรวบรวมจากท่านโดยอัตโนมัติ หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่กลุ่มอินเทคค์ได้รับมาจากบุคคลภายนอก ได้แก่
- 4.1 ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล ตำแหน่ง หมายเลขบัตรประจําตัวประชาชน หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี เป็นต้น
- 4.2 ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ สถานที่จัดส่ง สถานที่จัดส่งใบแจ้งหนี้ หมายเลขโทรศัพท์ โทรสาร อีเมล เป็นต้น
- 4.3 ข้อมูลเกี่ยวกับการชำระเงิน เช่น จำนวนเงิน เงื่อนไขการชำระเงิน เลขที่บัญชีธนาคาร ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในใบแจ้งหนี้ ใบกำกับภาษี ใบเสร็จรับเงิน ใบสำคัญรับเงิน และใบหักบัญชีเงินฝาก เป็นต้น
- 4.4 ข้อมูลที่ใช้ประกอบเป็นหลักฐานในการลงทะเบียนเป็นลูกค้ากับกลุ่มอินเทคค์หรือในการทำธุรกรรมต่าง ๆ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในสำเนาบัตรประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาใบเปลี่ยนชื่อนามสกุล ใบขอเปิดหน้าบัญชีลูกค้า หนังสือมอบอำนาจ สำเนาหนังสือรับรองกลุ่มอินเทคค์ สำเนาภพ.20 และสัญญาซื้อ - ขาย หรือสัญญาอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรม เป็นต้น
- 4.5 ข้อมูลด้านเทคนิค เช่น ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP Address) และข้อมูลที่กลุ่มอินเทคค์ได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึงกัน เป็นต้น
- 4.6 ข้อมูลผู้ถือหุ้นและกรรมการบริษัท เช่น ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ เลขบัญชีธนาคาร สัญชาติ จำนวนหุ้น สำเนาบัตรประชาชน
- 4.7 ข้อมูลอื่นๆ เช่น บันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV) เป็นต้น
ข้อ 5 วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
5.1. กลุ่มอินเทคค์ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ภายใต้ฐานทางกฎหมายดังต่อไปนี้ (รวมกันเรียกว่า “วัตถุประสงค์การประมวลผลขอมูลส่วนบุคคล”)
ข้อที่ |
วัตถุประสงค์ |
ฐานทางกฎหมาย |
1.1 |
เพื่อการดำเนินการตามกระบวนการต่าง ๆ ก่อนเข้าทำสัญญา เช่น การขึ้นทะเบียนลูกค้าการพิจารณาคุณสมบัติของลูกค้า และ/หรือรวบรวมรายชื่อผู้ที่คาดว่าจะเป็นลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน |
ฐานประโยชน์อันชอบธรรมด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest) |
1.2 |
เพื่อการพิจารณาอนุมัติคำขอซื้อสินค้าและหรือใช้บริการ รวมถึงกระบวนการตรวจสอบยืนยันตัวตน การตรวจสอบอำนาจ การมอบอำนาจและการรับมอบอำนาจ การพิจารณาความเสี่ยงในการเข้าทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง และการดำเนินการตามกระบวนการภายในต่าง ๆเพื่อการทำสัญญา การปฏิบัติงานตามสัญญา การส่งสินค้า การให้บริการ รวมไปถึงการติดต่อประสานงาน การเรียกเก็บค่าใช้จ่าย การจัดส่งเอกสารที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการนำส่งสรรพากร หรือใช้ในการส่งให้ผู้สอบบัญชีเข้ามาตรวจสอบ เป็นต้น |
ฐานสัญญา (Contract) |
1.3 |
เพื่อดำเนินการเตรียมความพร้อมสำหรับอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องการเข้าเยี่ยมชมพื้นที่ภายในบริษัท และเป็นการเก็บข้อมูลการติดต่อสำหรับผู้เข้าเชี่ยมชมหากเกิดเหตุฉุกเฉิน |
ฐานประโยชน์อันชอบธรรมด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest) |
1.4 |
เพื่อการดำเนินการเกี่ยวกับการรับเรื่องร้องเรียนจากลูกค้า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน |
ฐานประโยชน์อันชอบธรรมด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest) |
1.5 |
เพื่อการติดต่อสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ โฆษณาทางการตลาด การเสนอโปรโมชั่น เสนอราคา กับลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน |
ฐานความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests) ฐานความยินยอม (Consent Interest) |
1.6 |
เพื่อเป็นการจัดกิจกรรมเพื่อการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า และเพื่อทำการผูกพันธมิตรกับลูกค้า อาทิ การจัดสัมมนา การนัทนาการ การแจ้งของรางวัล ให้แก่ลูกค้า เป็นต้น |
ฐานความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests) ฐานความยินยอม (Consent Interest) |
1.7 |
เพื่อการตรวจสอบดูแลความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยของบุคคล และทรัพย์สินของกลุ่มอินเทคค์ |
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests) การป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพบุคคล (Vital Interests) |
1.8 |
เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของกลุ่มอินเทคค์และคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอาทิ กรมสรรพากร ข้อมูลตามเจ้าพนักงานรัฐร้องขอ เป็นต้น |
การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) |
1.9 |
เพื่อประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่ออนุมัติตามความต้องการของลูกค้าที่ทำการร้องขอ เช่น การขอเปลี่ยนแปลงเพิ่ม - ลดปริมาณสินค้า การขอซื้อสินค้าโดยใช้เครดิต หรือการขอลดราคาสินค้าลงจากที่ตกลงไว้ เป็นต้น |
ฐานประโยชน์อันชอบธรรมด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest) |
5.2. เนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่กลุ่มอินเทคค์จะดำเนินการประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนดตามข้อ ข้างต้นในส่วนที่มีความเกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือสัญญาหรือมีความจำเป็นเพื่อเข้าทำสัญญากับท่าน เป็นข้อมูลที่จําเป็นต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่กลุ่มอินเทคค์อาจมีผลกระทบทางกฎหมาย หรืออาจทำให้กลุ่มอินเทคค์ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ภายใต้สัญญาที่ได้เข้าทำกับท่าน หรือไม่สามารถเข้าทำสัญญากับท่านได้ (บางกรณี) ในกรณีดังกล่าว กลุ่มอินเทคค์อาจมีความจำเป็นต้องปฏิเสธการเข้าทำสัญญากับท่าน หรือยกเลิกการซื้อขาย หรือการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับท่าน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
5.3. ในกรณีที่กลุ่มอินเทคค์จะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในลักษณะ และ/หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ข้างต้นกลุ่มอินเทคค์ จะจัดให้มีนโยบายหรือประกาศฯเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม และ/หรือมีหนังสือไปยังท่านเพื่ออธิบายการประมวลผลข้อมูลในลักษณะดังกล่าว โดยท่านควรอ่านนโยบายหรือประกาศฯเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องร่วมกับประกาศฯ ฉบับนี้ และ/หรือหนังสือดังกล่าว (บางกรณี)
ข้อ 6 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
6.1. กลุ่มอินเทคค์อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดและตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมาย กำหนดให้แก่บุคคลและหน่วยงานดังต่อไปนี้
- (ก) หน่วยงานภายในกลุ่มอินเทคค์ ทั้งนี้ให้รวมถึงผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง และ/หรือบุคลากรภายในของกลุ่มอินเทคค์ดังกล่าวเท่าที่เกี่ยวข้อง และตามความจำเป็นเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- (ข) คู่ค้าทางธุรกิจ ผู้ให้บริการ และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ที่กลุ่มอินเทคค์มอบหมายหรือว่าจ้างให้ทำหน้าที่บริหารจัดการ/ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่กลุ่มอินเทคค์ในการให้บริการต่างๆ เช่น การให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ บริการชําระเงิน บริการรับส่งไปรษณีย์ บริการรับส่งพัสดุ หรือบริการอื่นใดที่อาจเป็นประโยชน์ต่อท่าน หรือเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของกลุ่มอินเทคค์ อาทิ ธนาคารพาณิชย์
- (ค) ที่ปรึกษาของกลุ่มอินเทคค์ เช่น ที่ปรึกษากฎหมาย ทนายความ ผู้ตรวจสอบบัญชี หรือผู้เชี่ยวชาญอื่นใด ทั้งภายในและภายนอกของกลุ่มอินเทคค์ เป็นต้น
- (ง) หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลตามกฎหมาย หรือที่ร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย หรือที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย หรือที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมสรรพากร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด ศาล และกรมบังคับคดี สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ นายทะเบียนผู้ถือหุ้น เป็นต้น
- (จ) บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใด ที่ท่านให้ความยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลหรือหน่วยงานนั้นๆ
6.2. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่นจะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนด หรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกําหนดให้กระทำได้เท่านั้น ในกรณีที่กฎหมายกำหนดว่าต้องได้รับความยินยอมจากท่าน กลุ่มอินเทคค์จะขอความยินยอมจากท่านก่อน
6.3. ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น กลุ่มอินเทคค์จะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผยและเพื่อปฏิบัติตามมาตรฐานและหน้าที่การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ทั้งนี้ ในกรณีที่กลุ่มอินเทคค์ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ กลุ่มอินเทคค์จะดำเนินการเพื่อทำให้แน่ใจว่าประเทศปลายทาง องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ หรือเพื่อทำให้แน่ใจว่าการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด โดยในบางกรณีกลุ่มอินเทคค์อาจขอความยินยอมของท่านสำหรับการส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศดังกล่าว
ข้อ 7 ระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
กลุ่มอินเทคค์จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ โดยระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล จะเปลี่ยนแปลงไปโดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้กลุ่มอินเทคค์จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะเวลาตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด (ถ้ามี) โดยคำนึงถึงอายุความตามกฎหมายสำหรับการดำเนินคดีที่อาจเกิดขึ้นจาก หรือเกี่ยวข้องกับเอกสารหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่กลุ่มอินเทคค์เก็บรวบรวมไว้ในแต่ละรายการ และโดยคำนึงถึงแนวปฏิบัติขอ กลุ่มอินเทคค์และของภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภทเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ กลุ่มอินเทคค์จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่นิติสัมพันธ์ระหว่างท่านกับกลุ่มอินเทคค์สิ้นสุดลง อย่างไรก็ดี กลุ่มอินเทคค์อาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเกินกว่าระยะเวลาดังกล่าวหากกฎหมายอนุญาตหรือการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจำเป็นต่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องทางกฎหมายของกลุ่มอินเทคค์
หลังจากครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวข้างต้น กลุ่มอินเทคค์จะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว จากการจัดเก็บหรือ ระบบของกลุ่มอินเทคค์และของบุคคลอื่นซึ่งให้บริการแก่กลุ่มอินเทคค์(ถ้ามี) หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่ สามารถระบุตัวท่านได้ เว้นแต่จะเป็นกรณีที่กลุ่มอินเทคค์ สามารถเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ต่อไปตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด ทั้งนี้ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อมายังกลุ่มอินเทคค์ ตามรายละเอียดการติดต่อที่ ระบุไว้ในข้อ 10 ของประกาศฯ ฉบับ
ข้อ 8 สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูล
ในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิตามที่กำหนดไว้โดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ทั้งนี้ ท่านสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ของท่านได้ตามช่องทางที่กลุ่มอินเทคค์กำหนดในข้อ 11 โดยจะสามารถเริ่มใช้สิทธิได้ เมื่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับกับกลุ่มอินเทคค์ซึ่งสิทธิต่าง ๆ มีรายละเอียด ดังนี้
-
(ก) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (Right to Withdraw Consent)
ในกรณีที่ กลุ่มอินเทคค์ขอความยินยอมจากท่าน ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับกลุ่มอินเทคค์ได้ เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน
(ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย)
-
(ข) สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Access)
ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกลุ่มอินเทคค์รวมถึงขอให้กลุ่มอินเทคค์เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลดังกล่าวที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อกลุ่มอินเทคค์ได้
-
(ค) สิทธิในการขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล (Data Portability Right)
ท่านมีสิทธิขอให้กลุ่มอินเทคค์โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับกลุ่มอินเทคค์ได้ตามที่กฎหมายกำหนด
-
(ง) สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Object)
ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลที่เกี่ยวกับท่านสำหรับกรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนได้ตามที่กฎหมายกำหนด
-
(จ) สิทธิในการขอลบข้อมูลส่วนบุคคล (Erasure Right)
ท่านมีสิทธิขอให้กลุ่มอินเทคค์ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตาม กลุ่มอินเทคค์อาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งอาจมีบางระบบที่ไม่สามารถลบข้อมูลได้ ในกรณีเช่นนั้น กลุ่มอินเทคค์จะจัดให้มีการทำลายหรือทำให้ข้อมูลดังกล่าวกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้
-
(ฉ) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Restrict Processing)
-
(ช) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Right to Rectification)
กรณีที่ท่านเห็นว่าข้อมูลที่กลุ่มอินเทคค์มีอยู่นั้นไม่ถูกต้องหรือท่านมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเอง ท่านมีสิทธิขอให้กลุ่มอินเทคค์แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
ทั้งนี้กลุ่มอินเทคค์ฯขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคําร้องขอใช้สิทธิของท่านและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
ข้อ 9 การแก้ไขเปลี่ยนแปลงแบบแจ้งฉบับนี้
กลุ่มอินเทคค์อาจแก้ไขปรับปรุงแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เป็นครั้งคราว และเมื่อมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเช่นว่านั้น กลุ่มอินเทคค์จะประกาศให้ท่านทราบผ่านทางเว็บไซต์ของกลุ่มอินเทคค์และ/หรือแจ้งให้ท่านทราบผ่านทางอีเมล์ ทั้งนี้ หากจำเป็นต้องขอความยินยอมจากท่าน ทางกลุ่มอินเทคค์จะดำเนินการขอความยินยอมจากท่านเพิ่มเติมด้วย
ข้อ 10 วิธีการติดต่อ
ในกรณีที่มีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน การใช้สิทธิของท่าน หรือมีข้อร้องเรียนใด ๆ ท่านสามารถติดต่อกลุ่มอินเทคค์ได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer)
- ที่อยู่: 77/12 หมู่ 2 ถ.พระราม 2 ต.นาโคก อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร 74000
- โทรศัพท์ : (66)34 886 132 กด 8
- อีเมล: dpo@inteqc.com
กลุ่มอินเทคค์ (“บริษัทฯ”) ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกฎหมายฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใด ๆ ในอนาคต (“กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) บริษัทฯ จึงจัดทำประกาศเกี่ยวกับการใช้งานคุกกี้ (Cookies Notice) เพื่อให้ผู้ใช้งานเว็บไซต์ (“ท่าน”) ได้ทราบถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลคุกกี้ของบริษัทฯ
ข้อ 1 คำนิยาม
- “กลุ่มอินเทคค์ฯ” หมายถึง บริษัท อินเทคค์ โกลบอล จำกัด และ บริษัทย่อยตามงบการเงินรวมของบริษัทฯ รวมถึงบริษัทย่อยที่อยู่ในความควบคุมและบริหารงานของกลุ่มอินเทคค์ทั้งหมด ซึ่งต่อไปนี้ เรียกว่า “กลุ่มอินเทคค์ หรือ บริษัทฯ และ องค์กร
- กลุ่มอินเทคค์ หมายถึง นิติบุคคลหนึ่งนิติบุคคลใดหรือหลายนิติบุคคลดังต่อไปนี้
- บริษัท อินเทคค์ โกลบอล จำกัด
- บริษัท อินเทคค์สไวน์บรีดเดอร์ฟาร์ม จำกัด
- บริษัท อินเทคค์สไวน์ฟาร์ม จำกัด
- บริษัท อินเทคค์เพียวบรีดฟาร์ม จำกัด
- บริษัท อินเทคค์ ฟลาวมิลล์ จำกัด
- บริษัท อินเทคค์ ฟู้ดส์ จำกัด
- บริษัท แลบ อินเตอร์ จำกัด
- บริษัท อินเทคค์สไวน์บรีดเดอร์ฟาร์มลาว จำกัด(INTEQC SWINE BREEDER FARM LAOS Co., Ltd.)
- บริษัท อินเทคค์สไวน์ฟาร์มลาว จำกัด(INTEQC SWINE FARM Co., Ltd.)
- บริษัท อินเทคค์สไวน์บรีดเดอร์ฟาร์มเวียดนาม จำกัด
- บริษัท อินเทคค์ วีนา จำกัด(VINA JOINT STOCK Co., Ltd.)
- บริษัทย่อยซึ่งอยู่ใต้อำนาจการควบคุมของกลุ่มอินเทคค์
ภายในประเทศและต่างประเทศ ที่อยู่ในงบการเงินรวมของบริษัทฯ ทั้งหมด
- “ท่าน” หมายถึง ผู้ร่วมงาน นักศึกษาฝึกงาน อดีตผู้ร่วมงาน พนักงานสัญญาจ้าง ที่ปรึกษา กรรมการ ผู้บริหาร ผู้สมัครงานและบุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับผู้ร่วมงานของกลุ่มอินเทคค์
- “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
- “ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
- “ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล”หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
- “ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
- “กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง และให้หมายความรวมถึงกฎหมายฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใด ๆ ในอนาคต
ข้อ 2 คุกกี้คืออะไร
“คุกกี้ (Cookies)” หมายถึง Text files ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ของท่านที่ใช้เพื่อจัดเก็บรายละเอียดข้อมูลจราจรคอมพิวเตอร์ (Log) การใช้งานอินเตอร์เน็ต (Internet) ของท่าน หรือพฤติกรรมการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของท่าน
ข้อ 3 วัตถุประสงค์ในการใช้คุกกี้
กลุ่มอินเทคค์ จะจัดเก็บข้อมูลการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ จากผู้เข้าเยี่ยมชมทุกรายผ่านคุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีที่ใกล้เคียง และบริษัทฯใช้คุกกี้เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาประสิทธิภาพในการเข้าถึงบริการของบริษัทฯ ผ่านอินเตอร์เน็ต รวมถึงพัฒนาประสิทธิภาพในการใช้งานบริการของบริษัทฯทางอินเตอร์เน็ต โดยจะใช้เพื่อกรณี ดังต่อไปนี้
- 3.1 เพื่อช่วยจดจำข้อมูลเกี่ยวกับเบราว์เซอร์และการตั้งค่าของท่าน ช่วยให้ท่านเข้าใช้บริการเว็บไซต์ได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสบการณ์และความพึงพอใจในการใช้บริการ
- 3.2 เพื่อช่วยประเมินประสิทธิภาพและผลการให้บริการเว็บไซต์ที่ยังทำงานได้ไม่ดีและควรปรับปรุง
- 3.3 เพื่อรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลการเข้าเยี่ยมชมและใช้บริการเว็บไซต์ ที่จะทำให้บริษัทฯเข้าใจว่าผู้คนมีความสนใจเกี่ยวกับอะไร
- 3.4 เพื่อให้บริษัทฯได้ส่งมอบประสบการณ์ในการใช้บริการเว็บไซต์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับท่าน รวมถึงช่วยให้สามารถสื่อสารบริการและการประชาสัมพันธ์ได้ตรงตามสิ่งที่ท่านสนใจ
- 3.5 เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเว็บไซต์ เพื่อช่วยให้เราวัดจำนวนครั้งในการเข้าชมเว็บไซต์และการตอบสนองของท่านที่มีต่อผลิตภัณฑ์ที่บริษัทจัดแสดง ช่วยในด้านการปรับปรุงเว็บไซต์
- 3.6 เพื่อให้บริษัทได้พัฒนาการให้บริการแก่ท่าน โดยคุกกี้บางประเภทที่บริษัทใช้มีความสำคัญต่อการทำงานของบริการบนเว็บไซต์ ในขณะที่คุกกี้บางประเภทใช้สำหรับจัดเก็บข้อมูล (สถิติ) การใช้งานของท่านบนเว็บไซต์ เพื่อให้บริษัทสามารถพัฒนาบริการบนเว็บไซต์ให้สะดวกสบายในการใช้งานและเป็นประโยชน์แก่ท่าน คุกกี้บางประเภทเป็นคุกกี้ที่มีอยู่ชั่วคราวซึ่งจะหายไปเมื่อท่านปิดเบราว์เซอร์ ในขณะที่คุกกี้บางตัวจะคงอยู่ในคอมพิวเตอร์ของท่านไปอีกระยะหนึ่ง นอกจากนี้ บริษัทยังมีการใช้งาน Local คุกกี้ ซึ่งเป็นคุกกี้ที่มาพร้อมกับโฆษณาในระดับท้องถิ่นต่างๆ โดยคุกกี้เหล่านี้จะหายไปเมื่อโฆษณาดังกล่าวสิ้นสุดลง
ในกรณีท่านไม่ให้ความยินยอมในการใช้คุกกี้หรือปิดการใช้งานคุกกี้บางประเภท อาจส่งผลกระทบต่อการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทฯ ที่ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ และอาจทำให้ท่านไม่ได้รับความสะดวก หรือไม่สามารถเข้าถึงการใช้งานในบางส่วนของเว็บไซต์บริษัทฯ
ข้อ 4 ประเภทของคุกกี้
ประเภทของคุกกี้ที่เราใช้ ประกอบด้วย แต่ไม่จำกัดเพียง รายการต่อไปนี้
-
4.1 คุกกี้ที่จำเป็น (Strictly Necessary Cookies) คือ คุกกี้ที่ใช้สำหรับการทำงานที่จำเป็นของเว็บไซต์ และท่านไม่สามารถปิดการใช้งานในระหว่างการเข้าหน้าเว็บไซต์ของเราได้ ซึ่งคุกกี้ประเภทนี้จะมีไว้เพื่อการจัดเก็บข้อมูลของท่านและตอบสนองต่อความต้องการที่ได้รับการร้องขอจากท่าน เช่น การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว การเข้าสู่ระบบหรือการกรอกแบบฟอร์ม เป็นต้น
-
4.2 คุกกี้การใช้งาน (Functional Cookies) คือ คุกกี้ที่ใช้สำหรับการทำงานกับเว็บไซต์และการปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานหน้าเว็บไซต์ของเราตามความต้องการของท่าน เช่น การตั้งค่าปุ่มทางลัด หากท่านไม่อนุญาตให้คุกกี้ประเภทนี้ทำงาน อาจส่งผลต่อการใช้งานของท่านบนเว็บไซต์
-
4.3 คุกกี้กำหนดเป้าหมาย (Targeting Cookies) คือ คุกกี้ที่ใช้สำหรับการสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ หรือโฆษณาของเรา โดยคุกกี้ประเภทนี้จะสร้างเป็นโปรไฟล์ เพื่อระบุว่าท่านสนใจหรือชอบในสิ่งใดเป็นพิเศษบนเว็บไซต์ของเรา คุกกี้เหล่านี้ทำงานโดยการระบุแต่ละเบราว์เซอร์และรหัสอ้างอิงของอุปกรณ์ท่าน ทั้งนี้ หากท่านไม่อนุญาตให้คุกกี้ประเภทนี้ทำงาน ท่านจะไม่ได้รับข้อมูลการสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ หรือโฆษณาของเราบนเว็บไซต์
-
4.4 คุกกี้วัดผลการทำงานของเว็บไซต์ (Performance Cookies) คือคุกกี้ที่ใช้สำหรับจดจำและนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ รวมถึงพฤติกรรมในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ เพื่อเป็นข้อมูลในการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ อีกทั้งใช้สำหรับรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับวิธีการเข้าและพฤติกรรมการเยี่ยมชมเว็บไซต์ ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ หากท่านไม่อนุญาตให้เราใช้คุกกี้ประเภทนี้ เราจะไม่สามารถวัดผลการทำงานและปรับปรุงประสิทธิภาพของเว็บไซต์เราได้
ข้อ 5 ตารางประเภทคุกกี้ที่จัดเก็บ
5.1 สำหรับ Website : https://www.inteqcgroup.com/
ลำดับ |
ชื่อคุกกี้ |
ประเภทคุกกี้ |
รายละเอียด |
ระยะเวลาการจัดเก็บ |
1. |
XSIF-TOKEN |
Necessary |
This cookie enhances visitor browsing security by preventing cross-site request forgery |
2 hours |
2. |
laravel_session |
Necessary |
laravel uses laravel session to identify a session instance for a user, this can be changed |
2 hours |
3. |
_ga_* |
Analytics |
Google Analytics sets this cookie to store and count page views. |
1 year 1 month 4 days |
4. |
_ga |
Analytics |
The _ga cookie, installed by Google Analytics, calculates visitor, session and campaign data and also keeps track of site usage for the site's analytics report. The cookie stores information anonymously and assigns a randomly generated number to recognize unique visitors. |
1 year 1 month 4 days |
5. |
rc::a |
Necessary |
This cookie is set by the Google recaptcha service to identify bots to protect the website against malicious spam attacks. |
Never |
6. |
rc::c |
Necessary |
This cookie is set by the Google recaptcha service to identify bots to protect the website against malicious spam attacks. |
- |
5.2 สำหรับ Website : https://www.inteqcflourmill.com/
ลำดับ |
ชื่อคุกกี้ |
ประเภทคุกกี้ |
รายละเอียด |
ระยะเวลาการจัดเก็บ |
1. |
pil_language |
Functional |
The pil_language cookie is used by Polylang to remember the language selected by the user when returning to the website, and also to get the language information when not available in another way. |
1 year |
2. |
rg_ra |
Necessary |
This cookie is set by the Google geagricipa service to identify bots to protect the website against malicious spam attacks. |
never |
3. |
rg_sc |
Necessary |
This cookie is set by the Google geagricipa service to identify bots to protect the website against malicious spam attacks. |
- |
5.3 สำหรับ Website : https://www.inteqcfoods.com/
ลำดับ |
ชื่อคุกกี้ |
ประเภทคุกกี้ |
รายละเอียด |
ระยะเวลาการจัดเก็บ |
1. |
laravel_session |
Necessary |
laravel uses laravel_session to identify a session instance for a user, this can be changed |
2 hours |
2. |
_ga_* |
Analytics |
Google Analytics sets this cookie to store and count page views. |
1 year 1 month 4 days |
3. |
_ga |
Analytics |
The _ga cookie, installed by Google Analytics, calculates visitor, session and campaign data and also keeps track of site usage for the site's analytics report. The cookie stores information anonymously and assigns a randomly generated number to recognize unique visitors. |
1 year 1 month 4 days |
ข้อ 6 วิธีปิดคุกกี้
ท่านสามารถปิดการทำงานของคุกกี้ได้ โดยการตั้งค่าเบราว์เซอร์ของท่าน และตั้งค่าความเป็นส่วนตัวเพื่อระงับการรวบรวมข้อมูลโดยคุกกี้ในอนาคต รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถศึกษาได้จาก
อย่างไรก็ตาม บริษัทมีความจำเป็นต้องใช้คุกกี้บางประเภทเพื่อให้เว็บไซต์สามารถใช้การได้ ในขณะที่คุกกี้บางประเภทจะถูกใช้งานเพื่อพัฒนาการทำงานของเว็บไซต์และเพื่อประสบการณ์ใน การใช้งานของท่าน
ข้อ 7 การเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ของบุคคลภายนอก
เว็บไซต์ของ กลุ่มอินเทคค์ อาจมีการเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียของบุคคลภายนอก รวมถึงอาจมีการฝังเนื้อหาหรือวีดีโอที่มาจากโซเชียลมีเดีย เช่น YouTube หรือ Facebook หรือ Instagram และช่องทางมีเดียอื่นๆ เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้ท่านเข้าถึงเนื้อหาและสร้างการปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่นบนโซเชียลมีเดียจากเว็บไซต์ของ กลุ่มอินเทคค์ ได้ ซึ่งเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียของบุคคลภายนอกจะมีการกำหนดและตั้งค่าคุกกี้ขึ้นมาเอง โดยที่ กลุ่มอินเทคค์ ไม่สามารถควบคุมหรือรับผิดชอบต่อคุกกี้เหล่านั้นได้ และขอแนะนำให้ท่านควรเข้าไปอ่านและศึกษานโยบายหรือประกาศการใช้คุกกี้ของบุคคลภายนอกเหล่านั้นด้วย
ข้อ 8 การเปลี่ยนแปลงประกาศ
ประกาศฉบับนี้อาจมีการปรับปรุงให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์และตามการให้บริการจริง โดย กลุ่มอินเทคค์ ซึ่งเนื้อหานโยบายคุกกี้นี้จะถูกปรับปรุงหรือแก้ไขให้เหมาะสมกับรูปแบบและความจำเป็นในการใช้งานคุกกี้ของหน้าเว็บไซต์เรา ท่านสามารถเข้าถึงเนื้อหาของนโยบายคุกกี้ที่เป็นฉบับล่าสุดที่เว็บไซต์ของเราได้ตลอดเวลา จะมีการแจ้งประกาศที่มีการปรับปรุงใหม่บนเว็บไซต์นี้ ดังนั้น กลุ่มอินเทคค์ ขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบให้แน่ใจว่าท่านได้เข้าใจการเปลี่ยนแปลงตามข้อกำหนดดังกล่าวแล้ว
ข้อ 9 วิธีการติดต่อ
ในกรณีที่มีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน การใช้สิทธิของท่าน หรือมีข้อร้องเรียนใด ๆ ท่านสามารถติดต่อกลุ่มอินเทคค์ได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer)
- ที่อยู่: 77/12 หมู่ 2 ถ.พระราม 2 ต.นาโคก อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร 74000
- โทรศัพท์ : (66)34 886 132 กด 8
- อีเมล: dpo@inteqc.com
ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ (“นโยบาย”) จะอธิบายเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์กล้องวงจรปิด (“CCTV”) ที่กลุ่มอินเทคค์ (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า "บริษัท" "เรา" หรือ "ของเรา") ได้ใช้อุปกรณ์ CCTV พร้อมกับระบบต่าง ๆ สำหรับการตรวจสอบภายในพื้นที่ใดเป็นการเฉพาะ รวมถึงพื้นที่รอบ ๆ บริเวณของสถานที่ อาคาร และพื้นที่ใด ๆ เพื่อการป้องกันชีวิต อนามัย และทรัพย์สิน โดยมีข้อมูลส่วนบุคคลของลูกจ้าง กรรมการกลุ่มอินเทคค์คู่ค้า ผู้ปฏิบัติงาน ผู้มาติดต่อ หรือบุคคลใดก็ตาม (ซึ่งจะรวมเรียกว่า “ท่าน” หรือ “ของท่าน) ที่ได้เข้าไปอยู่ในบริเวณพื้นที่ที่ทำการตรวจสอบภายในอาคารและพื้นที่ใด ๆ ดังกล่าว นอกจากนี้ นโยบายฉบับนี้อธิบายถึงวิธีการในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และการส่งหรือโอนย้ายข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) ของท่าน และระบุถึงวิธีการในการจัดการหรือการใช้ระบบ CCTV ของเรา ทั้งนี้ เราอาจทำการแก้ไขเพิ่มเติมนโยบายฉบับนี้ได้ทุกเมื่อและจะแจ้งถึงการแก้ไขดังกล่าวให้ท่านได้ทราบเท่าที่จะดำเนินการได้
ข้อ 1 คำนิยาม
- “กลุ่มอินเทคค์ฯ” หมายถึง บริษัท อินเทคค์ โกลบอล จำกัด และ บริษัทย่อยตามงบการเงินรวมของบริษัทฯ รวมถึงบริษัทย่อยที่อยู่ในความควบคุมและบริหารงานของกลุ่มอินเทคค์ทั้งหมด ซึ่งต่อไปนี้ เรียกว่า “กลุ่มอินเทคค์ หรือ บริษัทฯ และ องค์กร
- กลุ่มอินเทคค์ หมายถึง นิติบุคคลหนึ่งนิติบุคคลใดหรือหลายนิติบุคคลดังต่อไปนี้
- บริษัท อินเทคค์ โกลบอล จำกัด
- บริษัท อินเทคค์สไวน์บรีดเดอร์ฟาร์ม จำกัด
- บริษัท อินเทคค์สไวน์ฟาร์ม จำกัด
- บริษัท อินเทคค์เพียวบรีดฟาร์ม จำกัด
- บริษัท อินเทคค์ ฟลาวมิลล์ จำกัด
- บริษัท อินเทคค์ ฟู้ดส์ จำกัด
- บริษัท แลบ อินเตอร์ จำกัด
- บริษัท อินเทคค์สไวน์บรีดเดอร์ฟาร์มลาว จำกัด(INTEQC SWINE BREEDER FARM LAOS Co., Ltd.)
- บริษัท อินเทคค์สไวน์ฟาร์มลาว จำกัด(INTEQC SWINE FARM Co., Ltd.)
- บริษัท อินเทคค์สไวน์บรีดเดอร์ฟาร์มเวียดนาม จำกัด
- บริษัท อินเทคค์ วีนา จำกัด(VINA JOINT STOCK Co., Ltd.)
- บริษัทย่อยซึ่งอยู่ใต้อำนาจการควบคุมของกลุ่มอินเทคค์
ภายในประเทศและต่างประเทศ ที่อยู่ในงบการเงินรวมของบริษัทฯ ทั้งหมด
- “ท่าน” หมายถึง ผู้ร่วมงาน นักศึกษาฝึกงาน อดีตผู้ร่วมงาน พนักงานสัญญาจ้าง ที่ปรึกษา กรรมการ ผู้บริหาร ผู้สมัครงานและบุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับผู้ร่วมงานของกลุ่มอินเทคค์
- “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
- “ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
- “ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล”หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
- “ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
- “กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง และให้หมายความรวมถึงกฎหมายฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใด ๆ ในอนาคต
ข้อ 2 ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทใดบ้างที่เราเก็บรวบรวม
เราจะทำการเก็บภาพเคลื่อนไหวหรือภาพนิ่งซึ่งสามารถที่จะสามารถจดจำได้ว่าเป็นท่าน เสียงของท่าน รวมถึงทรัพย์สินของท่าน อาทิ ยานพาหนะ เมื่อเข้าไปในพื้นที่ที่ได้ทำการตรวจสอบภายในสถานที่ อาคาร และพื้นที่ใด ๆ ของเรา ผ่านระบบและอุปกรณ์ CCTV (“ข้อมูลจาก CCTV”)
ข้อ 3 วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
3.1. เราอาจทำการรวบรวม เก็บภาพ ใช้ เปิดเผย โอน และดำเนินการใดๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการบันทึกการเก็บบันทึก การปรับเปลี่ยน การแก้ไข การดัดแปลง การทำลาย การลบ การกู้คืน การรวม การทำสำเนา การส่งผ่าน การเก็บรักษา การถอน การปรับปรุง การเพิ่มเติม ต่อข้อมูลจาก CCTV เกี่ยวกับท่านและข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่าน สำหรับ "วัตถุประสงค์การตรวจสอบโดย CCTV" ตามรายการที่ระบุไว้ด้านล่าง จะกระทำบนฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อประโยชน์ต่อชีวิต เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อประโยชน์สาธารณะ ตามความยินยอมที่ได้รับ หรือตามฐานอื่นใดที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่บังคับใช้ในประเทศไทย (โดยที่ผลประโยชน์เหล่านั้นจะไม่เป็นการก้าวล่วงต่อสิทธิและผลประโชน์ของบุคคลใด) ซึ่งอาจพิจารณาได้ตามกรณีดังนี้
ข้อที่ |
วัตถุประสงค์ |
ฐานทางกฎหมาย |
1 |
เพื่อปกป้องชีวิต ร่างกาย ความปลอดภัยอนามัยส่วนบุคคล และ/หรือทรัพย์สินส่วนตัวของท่าน |
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests) |
2 |
เพื่อควบคุมการเข้ามาภายในอาคารและเพื่อการรักษาความปลอดภัยของอาคาร บุคลากร พนักงาน และผู้มาติดต่อ รวมทั้งทรัพย์สินและข้อมูล ของเราที่ตั้งอยู่หรือเก็บไว้ในสถานที่นั้น ๆ |
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests) |
3 |
เพื่อการปกป้อง/ป้องกันสถานที่ อาคาร พื้นที่ต่าง ๆ และทรัพย์สินของเรา จากความเสียหาย การหยุดชะงัก การทำลาย และอาชญากรรมอื่น ๆ |
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest) |
4 |
เพื่อช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทอย่างมีประสิทธิภาพที่เกิดขึ้นในขณะทำการลงโทษทางวินัยหรือการพิจารณาเรื่องร้องทุกข์ |
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests) |
5 |
เพื่อช่วยเหลือในการสืบสวนสอบสวนหรือการดำเนินการเกี่ยวกับการร้องเรียน และการแจ้งเบาะแส |
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests) |
6 |
เพื่อนำไปใช้ในการพิสูจน์หรือหักล้างในการดำเนินคดีทางแพ่ง ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีแรงงาน |
ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) |
7 |
เพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมายของเรา และ/หรือ การให้ความร่วมมือกับศาล หน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานของรัฐ และหน่วยงานที่มีอำนาจบังคับใช้กฎหมาย สำหรับการใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงเพื่อความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน เราเล็งเห็นว่าการใช้ระบบ CCTV เป็นมาตรการที่จำเป็นเพื่อให้เราสามารถปฏิบัติตามภาระหน้าที่เหล่านั้นได้ |
ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) |
8 |
เพื่อการใช้สิทธิของเราหรือปกป้องผลประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราในกรณีที่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น เพื่อระงับยับยั้ง ป้องกันและตรวจจับการประพฤติมิชอบ อาชญากรรมหรือการฝ่าฝืนกฎหมาย ติดตามเหตุการณ์ เพื่อป้องกันและรายงานการประพฤติมิชอบหรืออาชญากรรม และเพื่อปกป้องความปลอดภัยและความมั่นคงของธุรกิจของเรา พวกเราจะพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างสมดุลระหว่างผลประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราและของบุคคลที่สาม และสิทธิขั้นพื้นฐานและเสรีภาพของท่านที่เกี่ยวข้องกับการปกป้องข้อมูลบนระบบ CCTV ที่เกี่ยวข้องกับท่าน ตามแต่กรณี เราจะพยายามระบุถึงขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อให้เกิดความสมดุลที่เหมาะตามแต่สมควร |
ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) |
3.2. ระบบ CCTV ของเราเปิดใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเราทำการเฝ้าดูผ่านอุปกรณ์ ยกเว้นในกรณีที่อุปกรณ์/ระบบเกิดความขัดข้อง และ/หรือต้องทำการซ่อมบำรุง
3.3. เราจะจัดวางป้ายตามความเหมาะสมในสถานที่ที่มีการใช้งานระบบ CCTV เพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงพื้นที่ที่มีการบันทึกภาพ CCTV
ข้อ 4 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลภายนอก
4.1. เราจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับท่านในระบบ CCTV ไว้เป็นความลับ และจะทำการเปิดเผยหรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเฉพาะเพียงบริษัทลูก บริษัทในเครือของเรา บุคคลภายนอกอื่น ๆ ที่จะถูกคัดเลือกอย่างระมัดระวังในเวลานี้หรือในอนาคต ผู้ได้รับอนุญาต พันธมิตรกิจการร่วมค้า และ/หรือผู้ให้บริการ (ซึ่งอาจตั้งอยู่ในต่างประเทศ) เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การตรวจสอบโดย CCTV ตามที่ระบุไว้ในประกาศฯ ฉบับนี้
4.2 บุคคลภายนอกซึ่งเราอาจเปิดเผยข้อมูลจากระบบ CCTV และข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่าน ซึ่งรวมถึงการเปิดเผยต่อบริษัทในเครือของเรา (เป็นส่วนหนึ่งของประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราและประโยชน์ของบริษัทในเครือของเรา เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การตรวจสอบโดย CCTV) หน่วยงานภาครัฐ และ/หรือองค์กรที่ทำหน้าที่กำกับดูแล (เพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมาย หรือเพื่อสนับสนุนหรือช่วยเหลือแก่องค์กรบังคับใช้กฎหมายในเรื่องการสอบสวนและดำเนินคดีทางแพ่งหรือทางอาญา) และผู้ให้บริการบุคคลที่สาม (ตามขั้นตอนที่จำเป็นของเราเพื่อให้แน่ใจว่า เราจะให้การคุ้มครองต่อสุขภาพและความปลอดภัยส่วนบุคคล และทรัพย์สินของท่าน) อย่างไรก็ตามการเข้าถึงข้อมูลระบบ CCTV นั้น อาจเป็นการเข้าถึงหรือเปิดเผยได้เท่าที่จำเป็นเพื่อจัดการกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งอยู่ภายใต้หนึ่งในวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในข้อ 4.2 นี้ หรือเพื่อตอบสนองการร้องขอของบุคคลตามกฎหมายภายใต้ข้อ 3.1
ข้อ 5 การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ
เราอาจเปิดเผยหรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากระบบ CCTV (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนที่จำเป็นสำหรับสุขภาพ ความปลอดภัยส่วนบุคคลและทรัพย์สินของท่าน) ไปยังผู้ให้บริการบุคคลที่สามที่อยู่นอกประเทศไทย และการเปิดเผยหรือถ่ายโอนดังกล่าวจะกระทำต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากท่าน หรือมีพื้นฐานตามกฎหมายอื่นที่บังคับให้กระทำตามที่กฎหมายอนุญาตไว้ (เพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดของสัญญาระหว่างเรากับบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของท่าน) โดยที่ประเทศปลายทางดังกล่าวอาจมีหรือไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่คล้ายคลึงกับประเทศไทย อย่างไรก็ตาม เราจะทำให้มั่นใจได้ว่าการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้กระทำตามกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแล้วก่อนจะดำเนินการโอนข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
ข้อ 6 มาตรการรักษาความปลอดภัย
6.1 เราจะจัดให้มีระบบเทคนิค และการบริหารจัดการมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันข้อมูลจากระบบ CCTV และข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับท่านจากการถูกทำลาย การสูญหาย การเข้าถึง การใช้งาน การเปลี่ยนแปลง หรือการเปิดเผย โดยไม่ได้ตั้งใจ โดยผิดกฎหมาย หรือโดยไม่ได้รับอนุญาต และกรณีที่มีการส่งข้อมูลไปเก็บยังผู้ให้บริการภายนอก เราจะดำเนินการให้มีข้อกำหนดหรือข้อตกลง ในการบริหารจัดการมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม
6.2 เราจะทบทวนและปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยของเราเป็นครั้งคราวตามความจำเป็น หรือเมื่อมีการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่ามาตรการรักษาความปลอดภัยมีประสิทธิภาพและเหมาะสม สอดคล้องกับข้อกำหนดทางกฎหมายขั้นต่ำ ตามที่กำหนดโดยหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง
ข้อ 7 ระยะเวลาในการที่เราเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
เราจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราได้มาจากระบบ CCTV ไว้ในระบบของเรา จนกว่าพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลในระบบ CCTV จะเต็ม และเมื่อพื้นที่เต็ม ระบบ CCTV จะทำการลบและบันทึกทับข้อมูลใหม่ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การตรวจสอบโดย CCTV หากเราไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่ใช้บังคับในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากระบบ CCTV อีกต่อไป เราจะทำการลบข้อมูลเหล่านั้นออกจากระบบและการบันทึกของเรา อย่างไรก็ตามเราอาจทำการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากระบบ CCTV เป็นระยะเวลานานขึ้น ตัวอย่างเช่น ทำการเก็บไว้จนกว่าจะสิ้นสุดของการดำเนินการตามกฎหมาย หรือมีกฎหมายที่กำหนดระยะเวลาในการเก็บข้อมูลที่ยาวนานกว่า หรือมีข้อมูลระบบ CCTV บางอย่างซึ่งต้องทำการเก็บรักษาไว้สำหรับการดำเนินการต่อเหตุการณ์บางเรื่อง หรือเพื่อตอบสนองต่อข้อเรียกร้องจากบุคคลหนึ่งบุคคลใดในการใช้สิทธิตามกฎหมาย
ข้อ 8 สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูล
ในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิตามที่กำหนดไว้โดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ทั้งนี้ ท่านสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ของท่านได้ตามช่องทางที่กลุ่มอินเทคค์กำหนดในข้อ 10 โดยจะสามารถเริ่มใช้สิทธิได้ เมื่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับกับกลุ่มอินเทคค์ซึ่งสิทธิต่าง ๆ มีรายละเอียด ดังนี้
-
(ก) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (Right to Withdraw Consent)
ในกรณีที่ กลุ่มอินเทคค์ขอความยินยอมจากท่าน ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับกลุ่มอินเทคค์ได้ เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน
(ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย)
-
(ข) สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Access)
ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกลุ่มอินเทคค์รวมถึงขอให้กลุ่มอินเทคค์เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลดังกล่าวที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อกลุ่มอินเทคค์ได้
-
(ค) สิทธิในการขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล (Data Portability Right)
ท่านมีสิทธิขอให้กลุ่มอินเทคค์โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับกลุ่มอินเทคค์ได้ตามที่กฎหมายกำหนด
-
(ง) สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Object)
ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลที่เกี่ยวกับท่านสำหรับกรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนได้ตามที่กฎหมายกำหนด
-
(จ) สิทธิในการขอลบข้อมูลส่วนบุคคล (Erasure Right)
ท่านมีสิทธิขอให้กลุ่มอินเทคค์ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตาม กลุ่มอินเทคค์อาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งอาจมีบางระบบที่ไม่สามารถลบข้อมูลได้ ในกรณีเช่นนั้น กลุ่มอินเทคค์จะจัดให้มีการทำลายหรือทำให้ข้อมูลดังกล่าวกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้
-
(ฉ) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Restrict Processing)
ท่านมีสิทธิขอให้กลุ่มอินเทคค์ระงับการใช้ข้อมูลของท่านได้ตามที่กฎหมายกำหนด
-
(ช) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Right to Rectification)
กรณีที่ท่านเห็นว่าข้อมูลที่กลุ่มอินเทคค์มีอยู่นั้นไม่ถูกต้องหรือท่านมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเอง ท่านมีสิทธิขอให้กลุ่มอินเทคค์แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
ทั้งนี้กลุ่มอินเทคค์ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคําร้องขอใช้สิทธิของท่านและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
ข้อ 9 การแก้ไขเปลี่ยนแปลงแบบแจ้งฉบับนี้
กลุ่มอินเทคค์อาจแก้ไขปรับปรุงแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เป็นครั้งคราว และเมื่อมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเช่นว่านั้น กลุ่มอินเทคค์จะประกาศให้ท่านทราบผ่านทางเว็บไซต์ของกลุ่มอินเทคค์และ/หรือแจ้งให้ท่านทราบผ่านทางอีเมล์ ทั้งนี้ หากจำเป็นต้องขอความยินยอมจากท่าน ทางกลุ่มอินเทคค์จะดำเนินการขอความยินยอมจากท่านเพิ่มเติมด้วย
ข้อ 10 วิธีการติดต่อ
ในกรณีที่มีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน การใช้สิทธิของท่าน หรือมีข้อร้องเรียนใด ๆ ท่านสามารถติดต่อกลุ่มอินเทคค์ได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer)
- ที่อยู่: 77/12 หมู่ 2 ถ.พระราม 2 ต.นาโคก อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร 74000
- โทรศัพท์ : (66)34 886 132 กด 8
- อีเมล: dpo@inteqc.com
กลุ่มอินเทคค์ ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ถือหุ้นและนักลงทุนที่ร่วมกับ กลุ่มอินเทคค์และเพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่าเราจะให้ความคุ้มครองและปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และเพื่อเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กลุ่มอินเทคค์ จึงจัดทำประกาศฯเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) สำหรับกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นและนักลงทุนของกลุ่มอินเทคค์ (“ประกาศฯ”) โดยจัดทำขึ้นเพื่อชี้แจงรายละเอียด และวิธีการจัดการและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่กลุ่มอินเทคค์ ได้รับมาจากท่าน รวมถึงชี้แจงวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และส่งต่อ ตลอดจนระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว อาธิเช่น การบันทึก การจัดระบบ การจัดเก็บ การปรับเปลี่ยนหรือการดัดแปลง การเรียกคืน การส่ง โอน การเผยแพร่หรือการทำให้สามารถเข้าถึงหรือพร้อมใช้งานโดยวิธีใด ๆ การจัดเรียง การนํามารวมกัน การจํากัดหรือการห้ามเข้าถึง การลบ หรือการทำลาย (“ประมวลผล”) และสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ กลุ่มอินเทคค์ ขอแนะนําให้ท่านอ่านและทำความเข้าใจถึงข้อกําหนดต่าง ๆ ภายใต้ประกาศฯ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ข้อ 1 คำนิยาม
- “กลุ่มอินเทคค์ฯ” หมายถึง บริษัท อินเทคค์ โกลบอล จำกัด และ บริษัทย่อยตามงบการเงินรวมของบริษัทฯ รวมถึงบริษัทย่อยที่อยู่ในความควบคุมและบริหารงานของกลุ่มอินเทคค์ทั้งหมด ซึ่งต่อไปนี้ เรียกว่า “กลุ่มอินเทคค์ หรือ บริษัทฯ และ องค์กร
- กลุ่มอินเทคค์ หมายถึง นิติบุคคลหนึ่งนิติบุคคลใดหรือหลายนิติบุคคลดังต่อไปนี้
- บริษัท อินเทคค์ โกลบอล จำกัด
- บริษัท อินเทคค์สไวน์บรีดเดอร์ฟาร์ม จำกัด
- บริษัท อินเทคค์สไวน์ฟาร์ม จำกัด
- บริษัท อินเทคค์เพียวบรีดฟาร์ม จำกัด
- บริษัท อินเทคค์ ฟลาวมิลล์ จำกัด
- บริษัท อินเทคค์ ฟู้ดส์ จำกัด
- บริษัท แลบ อินเตอร์ จำกัด
- บริษัท อินเทคค์สไวน์บรีดเดอร์ฟาร์มลาว จำกัด(INTEQC SWINE BREEDER FARM LAOS Co., Ltd.)
- บริษัท อินเทคค์สไวน์ฟาร์มลาว จำกัด(INTEQC SWINE FARM Co., Ltd.)
- บริษัท อินเทคค์สไวน์บรีดเดอร์ฟาร์มเวียดนาม จำกัด
- บริษัท อินเทคค์ วีนา จำกัด(VINA JOINT STOCK Co., Ltd.)
- บริษัทย่อยซึ่งอยู่ใต้อำนาจการควบคุมของกลุ่มอินเทคค์
ภายในประเทศและต่างประเทศ ที่อยู่ในงบการเงินรวมของบริษัทฯ ทั้งหมด
- “ท่าน” หมายถึง ผู้ร่วมงาน นักศึกษาฝึกงาน อดีตผู้ร่วมงาน พนักงานสัญญาจ้าง ที่ปรึกษา กรรมการ ผู้บริหาร ผู้สมัครงานและบุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับผู้ร่วมงานของกลุ่มอินเทคค์
- “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
- “ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
- “ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล”หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
- “ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
- “กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง และให้หมายความรวมถึงกฎหมายฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใด ๆ ในอนาคต
ข้อ 2 กลุ่มหรือประเภทของบุคคลที่กลุ่มอินเทคค์ ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
ภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ กลุ่มหรือประเภทของบุคคลที่กลุ่มอินเทคค์ทำการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ประกอบด้วย
- 2.1 นักลงทุน ซึ่งหมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลที่ต้องการหรือสนใจลงทุนในหลักทรัพย์ของกลุ่มอินเทคค์
- 2.2 ผู้ถือหุ้น ซึ่งหมายถึง บุคคลที่เป็นเจ้าของเงินลงทุนในกิจการ และถือเป็นผู้ที่มีบทบาทควบคุมกลุ่มอินเทคค์ในทางอ้อมโดยเป็นผู้แต่งตั้งคณะกรรมการเข้าไปเป็นตัวแทนของตนในการกำกับดูแลการดำเนินงานของกิจการเพื่อประโยชน์สูงสุด
ข้อ 3 วิธีที่กลุ่มอินเทคค์ เก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
3.1. กลุ่มอินเทคค์เก็บรวบรวม และรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
-
(ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับกลุ่มอินเทคค์โดยตรง
-
(1) เมื่อท่านเข้าเป็นผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นกู้ ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้มอบฉันทะ ผู้รับมอบอำนาจ ในการลงทะเบียนเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้น การรับลงทะเบียนการโอนหรือรับโอนหุ้น รวมทั้งการซื้อขายผ่านนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ (Broker) หรือนายทะเบียนหลักทรัพย์
-
(2) ข้อมูลจากกระบวนการเปลี่ยนแปลงบัญชีผู้ถือหุ้น การเพิ่มหรือลดทุน การทำแบบสอบถาม การสัมภาษณ์ รวมถึงข้อมูลและการปรับปรุงข้อมูลของท่าน จากกระบวนการต่าง ๆ ในช่วงเวลาที่ท่านเป็นผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นกู้ ผู้ถือใบสำคัญ แสดงสิทธิ หรือผู้ที่เกี่ยวข้อง
-
(ข) ข้อมูลส่วนบุคคลที่กลุ่มอินเทคค์เก็บรวบรวมจากท่านโดยอัตโนมัติ
กลุ่มอินเทคค์อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอัตโนมัติ เช่น การจัดเก็บข้อมูลบันทึกภาพผ่านกล้องวงจรปิด (Closed-circuit television: CCTV) ที่ติดตั้งในพื้นที่อาคารสำนักงาน และพื้นที่ของสำนักงานกลุ่มอินเทคค์ในเครือ การเก็บรวบรวมข้อมูลทางเทคนิค กิจกรรมและรูปแบบการเข้าชม ข้อมูลประวัติการใช้งานเว็บไซต์ (Browsing) ของท่านโดยอัตโนมัติโดยใช้คุกกี้ (Cookies) และเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน ทั้งนี้ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ "นโยบายการใช้คุกกี้ (Cookies Notice)" ของกลุ่มอินเทคค์
-
(ค) ข้อมูลส่วนบุคคลที่กลุ่มอินเทคค์ได้รับมาจากบุคคลภายนอก
กลุ่มอินเทคค์อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากบุคคลภายนอก เช่น
-
(1) การเก็บข้อมูลจากผู้ให้บริการต่าง ๆ ของกลุ่มอินเทคค์ เช่น ผู้นายทะเบียนหลักทรัพย์ เป็นต้น
-
(2) ในบางกรณีกลุ่มอินเทคค์อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งข้อมูลสาธารณะ แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของท่าน หรือแหล่งข้อมูลทางการค้า ไม่ว่าท่านจะเป็นผู้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลด้วยตนเองหรือได้ให้ความยินยอมแก่ผู้ใดในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังกล่าว
3.2. ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านจะได้รับการแจ้งถึงรายละเอียดต่าง ๆ ตามที่ระบุในประกาศฯ ฉบับนี้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือหากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอมจากท่าน กลุ่มอินเทคค์จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน
3.3. ในกรณีที่กลุ่มอินเทคค์เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ก่อนวันที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับกลุ่มอินเทคค์จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิมที่กลุ่มอินเทคค์ได้แจ้งไว้แก่ท่านในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิยกเลิกความยินยอมโดยติดต่อมายังกลุ่มอินเทคค์ตามรายละเอียดการติดต่อที่ระบุไว้ในข้อ 11 ของประกาศฯ ฉบับนี้ ทั้งนี้กลุ่มอินเทคค์ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำขอยกเลิกความยินยอมของท่านและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
ข้อ 4 ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ถูกเก็บรวบรวมและประมวลผลภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่าน ให้ไว้กับกลุ่มอินเทคค์โดยตรง หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่กลุ่มอินเทคค์เก็บรวบรวมจากท่านโดยอัตโนมัติ หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่กลุ่มอินเทคค์ได้รับมาจากบุคคลภายนอก ได้แก่
- 4.1 ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล ตำแหน่ง หมายเลขบัตรประจําตัวประชาชน หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี เป็นต้น
- 4.2 ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ สถานที่จัดส่ง หมายเลขโทรศัพท์ โทรสาร อีเมล เป็นต้น
- 4.3 ข้อมูลทางการเงิน (Financial Data) เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร (ที่ใช้ในการรับผลประโยชน์กรณีจ่ายเงินปันผล เงินต้น และ/หรือดอกเบี้ย) จำนวนหุ้น/หุ้นกู้ (หน่วย)
- 4.4 ข้อมูลด้านเทคนิค เช่น ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP Address) และข้อมูลที่กลุ่มอินเทคค์ได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึงกัน เป็นต้น
- 4.5 ข้อมูลผู้ถือหุ้น เช่น ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ เลขบัญชีธนาคาร สัญชาติ จำนวนหุ้น สำเนาบัตรประชาชน
- 4.6 ข้อมูลอื่นๆ เช่น บันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV) เป็นต้น
ข้อ 5 วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
5.1. กลุ่มอินเทคค์ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ภายใต้ฐานทางกฎหมายดังต่อไปนี้ (รวมกันเรียกว่า “วัตถุประสงค์การประมวลผลขอมูลส่วนบุคคล”)
ข้อที่ |
วัตถุประสงค์ |
ฐานทางกฎหมาย |
1.1 |
เพื่อการบริหารจัดการทะเบียนผู้ถือหุ้น และผู้ถือหุ้นกู้ การมอบฉันทะ และอื่น ๆ ทั้งสำหรับผู้ถือหุ้น และผู้ถือหุ้นกู้ ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยบริษัทมหาชนจำกัด หรือกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง |
การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) |
1.2 |
เพื่อการจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้น หรือการจ่ายคืนเงินต้นและ/หรือดอกเบี้ยแก่ผู้ถือหุ้นกู้ |
การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis) |
1.3 |
เพื่อการจัดประชุม การเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้น / ผู้ถือหุ้นกู้และการบริหารจัดการในการจัดประชุมดังกล่าว เช่น การลงทะเบียนเข้าร่วมประชุม การบันทึกการลงมติ เป็นต้น |
การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) |
1.4 |
เพื่อบันทึกการประชุมและจัดทำรายงานการประชุมลงในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นกู้ รวมถึงการเผยแพร่รายละเอียดในเว็บไซต์ของกลุ่มอินเทคต์ และช่องทางการสื่อสารอื่น ๆ ของกลุ่มอินเทคต์ |
การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) |
1.5 |
เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย คำสั่งของหน่วยงาน องค์กรอิสระ หรือเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่และอำนาจตามกฎหมาย เช่น การปฏิบัติตามหมายเรียก คำสั่งของศาล เจ้าหน้าที่ตำรวจ อัยการ หน่วยงานราชการ และการรายงานหรือเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการ หรือองค์กรอิสระ |
การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) |
1.6 |
เพื่อประกาศให้ทราบนโยบาย หรือพิจารณานโยบายการดำเนินธุรกิจและสื่อสารหารือเกี่ยวกับการอนุมัติในมติต่างๆ |
การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) |
5.2. เนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่กลุ่มอินเทคค์จะดำเนินการประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนดตามข้อข้างต้นในส่วนที่มีความเกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือสัญญาหรือมีความจำเป็นเพื่อเข้าทำสัญญากับท่าน เป็นข้อมูลที่จําเป็นต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่กลุ่มอินเทคค์อาจมีผลกระทบทางกฎหมาย หรืออาจทำให้กลุ่มอินเทคค์ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ภายใต้สัญญาที่ได้เข้าทำกับท่าน หรือไม่สามารถเข้าทำสัญญากับท่านได้ (บางกรณี) ในกรณีดังกล่าว กลุ่มอินเทคค์อาจมีความจำเป็นต้องปฏิเสธการเข้าทำสัญญากับท่าน หรือยกเลิกการซื้อขาย หรือการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับท่าน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
5.3. ในกรณีที่กลุ่มอินเทคค์จะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในลักษณะ และ/หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ข้างต้นกลุ่มอินเทคค์ จะจัดให้มีนโยบายหรือประกาศฯเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม และ/หรือมีหนังสือไปยังท่านเพื่ออธิบายการประมวลผลข้อมูลในลักษณะดังกล่าว โดยท่านควรอ่านนโยบายหรือประกาศฯเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องร่วมกับประกาศฯ ฉบับนี้ และ/หรือหนังสือดังกล่าว (บางกรณี)
ข้อ 6 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
6.1. กลุ่มอินเทคค์อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดและตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมาย กำหนดให้แก่บุคคลและหน่วยงานดังต่อไปนี้
-
(ก) หน่วยงานภายในกลุ่มอินเทคค์ ทั้งนี้ให้รวมถึงผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง และ/หรือบุคลากรภายในของกลุ่มอินเทคค์ดังกล่าวเท่าที่เกี่ยวข้อง และตามความจำเป็นเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
-
(ข) คู่ค้าทางธุรกิจ ผู้ให้บริการ และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ที่กลุ่มอินเทคค์มอบหมายหรือว่าจ้างให้ทำหน้าที่บริหารจัดการ/ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่กลุ่มอินเทคค์ในการให้บริการต่างๆ เช่น การให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ บริการชําระเงิน บริการรับส่งไปรษณีย์ บริการรับส่งพัสดุ หรือบริการอื่นใดที่อาจเป็นประโยชน์ต่อท่าน หรือเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของกลุ่มอินเทคค์ อาทิ ธนาคารพาณิชย์ บริษัทหลักทรัพย์ นายหน้าตลาดหลักทรัพย์ ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ เป็นต้น
-
(ค) ที่ปรึกษาของกลุ่มอินเทคค์ อาทิ ที่ปรึกษากฎหมาย ทนายความ ผู้ตรวจสอบบัญชี ผู้วิเคราะห์ นักข่าว หรือ ผู้เชี่ยวชาญอื่นใด ทั้งภายในและภายนอกของกลุ่มอินเทคค์ เป็นต้น
-
(ง) หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลตามกฎหมาย หรือที่ร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย หรือที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย หรือที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมสรรพากร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด ศาล และกรมบังคับคดี สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ นายทะเบียนผู้ถือหุ้น เป็นต้น
-
(จ) บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใด ที่ท่านให้ความยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลหรือหน่วยงานนั้นๆ
6.2. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่นจะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนด หรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกําหนดให้กระทำได้เท่านั้น ในกรณีที่กฎหมายกำหนดว่าต้องได้รับความยินยอมจากท่าน กลุ่มอินเทคค์จะขอความยินยอมจากท่านก่อน
6.3. ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น กลุ่มอินเทคค์จะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผยและเพื่อปฏิบัติตามมาตรฐานและหน้าที่การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ทั้งนี้ ในกรณีที่กลุ่มอินเทคค์ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ กลุ่มอินเทคค์จะดำเนินการเพื่อทำให้แน่ใจว่าประเทศปลายทาง องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ หรือเพื่อทำให้แน่ใจว่าการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด โดยในบางกรณีกลุ่มอินเทคค์อาจขอความยินยอมของท่านสำหรับการส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศดังกล่าว
ข้อ 7 ระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
กลุ่มอินเทคค์จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ โดยระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล จะเปลี่ยนแปลงไปโดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้กลุ่มอินเทคค์จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะเวลาตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด (ถ้ามี) โดยคำนึงถึงอายุความตามกฎหมายสำหรับการดำเนินคดีที่อาจเกิดขึ้นจาก หรือเกี่ยวข้องกับเอกสารหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่กลุ่มอินเทคค์เก็บรวบรวมไว้ในแต่ละรายการ และโดยคำนึงถึงแนวปฏิบัติขอ กลุ่มอินเทคค์และของภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภทเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ กลุ่มอินเทคค์จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่นิติสัมพันธ์ระหว่างท่านกับกลุ่มอินเทคค์สิ้นสุดลง อย่างไรก็ดี กลุ่มอินเทคค์อาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเกินกว่าระยะเวลาดังกล่าวหากกฎหมายอนุญาตหรือการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจำเป็นต่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องทางกฎหมายของกลุ่มอินเทคค์
หลังจากครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวข้างต้น กลุ่มอินเทคค์ฯจะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว จากการจัดเก็บหรือ ระบบของกลุ่มอินเทคค์และของบุคคลอื่นซึ่งให้บริการแก่กลุ่มอินเทคค์(ถ้ามี) หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่ สามารถระบุตัวท่านได้ เว้นแต่จะเป็นกรณีที่กลุ่มอินเทคค์ สามารถเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ต่อไปตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด ทั้งนี้ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อมายังกลุ่มอินเทคค์ ตามรายละเอียดการติดต่อที่ ระบุไว้ในข้อ 10 ของประกาศฯ ฉบับ
ข้อ 8 สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูล
ในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิตามที่กำหนดไว้โดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ทั้งนี้ ท่านสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ของท่านได้ตามช่องทางที่กลุ่มอินเทคค์กำหนดในข้อ 11 โดยจะสามารถเริ่มใช้สิทธิได้ เมื่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับกับกลุ่มอินเทคค์ซึ่งสิทธิต่าง ๆ มีรายละเอียด ดังนี้
-
(ก) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (Right to Withdraw Consent)
ในกรณีที่ กลุ่มอินเทคค์ขอความยินยอมจากท่าน ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับกลุ่มอินเทคค์ได้ เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน
(ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย)
-
(ข) สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Access)
ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกลุ่มอินเทคค์รวมถึงขอให้กลุ่มอินเทคค์เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลดังกล่าวที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อกลุ่มอินเทคค์ได้
-
(ค) สิทธิในการขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล (Data Portability Right)
ท่านมีสิทธิขอให้กลุ่มอินเทคค์โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับกลุ่มอินเทคค์ได้ตามที่กฎหมายกำหนด
-
(ง) สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Object)
ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลที่เกี่ยวกับท่านสำหรับกรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนได้ตามที่กฎหมายกำหนด
-
(จ) สิทธิในการขอลบข้อมูลส่วนบุคคล (Erasure Right)
ท่านมีสิทธิขอให้กลุ่มอินเทคค์ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตาม กลุ่มอินเทคค์ฯอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งอาจมีบางระบบที่ไม่สามารถลบข้อมูลได้ ในกรณีเช่นนั้น กลุ่มอินเทคค์จะจัดให้มีการทำลายหรือทำให้ข้อมูลดังกล่าวกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้
-
(ฉ) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Restrict Processing)
-
(ช) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Right to Rectification)
กรณีที่ท่านเห็นว่าข้อมูลที่กลุ่มอินเทคค์มีอยู่นั้นไม่ถูกต้องหรือท่านมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเอง ท่านมีสิทธิขอให้กลุ่มอินเทคค์แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
ทั้งนี้กลุ่มอินเทคค์ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคําร้องขอใช้สิทธิของท่านและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
ข้อ 9 การแก้ไขเปลี่ยนแปลงแบบแจ้งฉบับนี้
กลุ่มอินเทคค์อาจแก้ไขปรับปรุงแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เป็นครั้งคราว และเมื่อมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเช่นว่านั้น กลุ่มอินเทคค์จะประกาศให้ท่านทราบผ่านทางเว็บไซต์ของกลุ่มอินเทคค์และ/หรือแจ้งให้ท่านทราบผ่านทางอีเมล์ ทั้งนี้ หากจำเป็นต้องขอความยินยอมจากท่าน ทางกลุ่มอินเทคค์จะดำเนินการขอความยินยอมจากท่านเพิ่มเติมด้วย
ข้อ 10 วิธีการติดต่อ
ในกรณีที่มีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน การใช้สิทธิของท่าน หรือมีข้อร้องเรียนใด ๆ ท่านสามารถติดต่อกลุ่มอินเทคค์ได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer)
- ที่อยู่: 77/12 หมู่ 2 ถ.พระราม 2 ต.นาโคก อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร 74000
- โทรศัพท์ : (66)34 886 132 กด 8
- อีเมล: dpo@inteqc.com
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้แก่ท่านได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงทำให้สามารถมอบข้อเสนอ กิจกรรมส่งเสริมการขาย เลือกเนื้อหาให้เหมาะสมแก่ท่านอย่างเป็นส่วนตัวได้ การใช้งานเว็บไซต์นี้จะมีการจัดเก็บคุกกี้ประเภทต่าง ๆ ซึ่งท่านต้องยอมรับและยินยอมให้เราจัดเก็บ
นโยบายคุกกี้
นโยบายคุกกี้นี้ จะอธิบายถึงความหมาย ประเภท ลักษณะการใช้งานคุกกี้และระยะเวลาการจัดเก็บคุกกี้ของเว็บไซต์ของ กลุ่มอินเทคค์ (บริษัท อินเทคค์ ฟีด จำกัด และ บริษัทย่อยตามงบการเงินรวมของบริษัทฯ ซึ่งต่อไปนี้ เรียกว่า “กลุ่มอินเทคค์ หรือ บริษัทฯ หรือ ”เรา” ) เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้เว็บไซต์ของเราทำงานได้อย่างถูกต้อง แสดงเนื้อหาและโฆษณาที่ตรงกับความสนใจของผู้ใช้
1. คุกกี้คืออะไร?
คุกกี้เป็นไฟล์แบบตัวอักษรที่ส่งจากเว็บเบราว์เซอร์ของท่าน โดยไฟล์คุกกี้จะถูกติดตั้ง หรือบันทึกลงบนคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของท่านเมื่อเข้าชมเว็บไซต์ คุกกี้จะจดจำข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ และทำให้การเยี่ยมชมครั้งต่อไปของท่านง่ายขึ้นและทำให้การนำเสนอบริการของเรามีประโยชน์มากขึ้น
2. ประเภทของคุกกี้
ประเภทของคุกกี้ที่เราใช้ ประกอบด้วย แต่ไม่จำกัดเพียง รายการต่อไปนี้
-
คุกกี้ที่จำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
คุกกี้ที่จำเป็น คือ คุกกี้ที่ใช้สำหรับการทำงานที่จำเป็นของเว็บไซต์ และท่านไม่สามารถปิดการใช้งานในระหว่างการเข้าหน้าเว็บไซต์ของเราได้ ซึ่งคุกกี้ประเภทนี้จะมีไว้เพื่อการจัดเก็บข้อมูลของท่านและตอบสนองต่อความต้องการที่ได้รับการร้องขอจากท่าน เช่น การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว การเข้าสู่ระบบหรือการกรอกแบบฟอร์ม เป็นต้น
-
คุกกี้การใช้งาน (Functional Cookies)
คุกกี้การใช้งาน คือ คุกกี้ที่ใช้สำหรับการทำงานกับเว็บไซต์และการปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานหน้าเว็บไซต์ของเราตามความต้องการของท่าน เช่น การตั้งค่าปุ่มทางลัด หากท่านไม่อนุญาตให้คุกกี้ประเภทนี้ทำงาน อาจส่งผลต่อการใช้งานของท่านบนเว็บไซต์
-
คุกกี้กำหนดเป้าหมาย (Targeting Cookies)
คุกกี้กำหนดเป้าหมาย คือ คุกกี้ที่ใช้สำหรับการสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ หรือโฆษณาของเรา โดยคุกกี้ประเภทนี้จะสร้างเป็นโปรไฟล์ เพื่อระบุว่าท่านสนใจหรือชอบในสิ่งใดเป็นพิเศษบนเว็บไซต์ของเรา คุกกี้เหล่านี้ทำงานโดยการระบุแต่ละเบราว์เซอร์และรหัสอ้างอิงของอุปกรณ์ท่าน ทั้งนี้ หากท่านไม่อนุญาตให้คุกกี้ประเภทนี้ทำงาน ท่านจะไม่ได้รับข้อมูลการสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ หรือโฆษณาของเราบนเว็บไซต์
-
คุกกี้วัดผลการทำงานของเว็บไซต์ (Performance Cookies)
คุกกี้วัดผลการทำงานของเว็บไซต์ คือคุกกี้ที่ใช้สำหรับจดจำและนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ รวมถึงพฤติกรรมในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ เพื่อเป็นข้อมูลในการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ อีกทั้งใช้สำหรับรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับวิธีการเข้าและพฤติกรรมการเยี่ยมชมเว็บไซต์ ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ หากท่านไม่อนุญาตให้เราใช้คุกกี้ประเภทนี้ เราจะไม่สามารถวัดผลการทำงานและปรับปรุงประสิทธิภาพของเว็บไซต์เราได้
3. การจัดการคุกกี้
สำหรับการจัดการคุกกี้ บราวเซอร์ส่วนใหญ่จะมีการตั้งค่าให้มีการยอมรับคุกกี้เป็นค่าเริ่มต้น อย่างไรก็ตาม ท่านสามารถปฏิเสธการใช้งานหรือลบคุกกี้ในหน้าการตั้งค่าของบราวเซอร์ที่ท่านใช้งานอยู่ได้ ทั้งนี้ หากท่านทำการปรับเปลี่ยนการตั้งค่าบราวเซอร์ของท่านอาจส่งผลกระทบต่อรูปแบบและการใช้งานบนหน้าเว็บไซต์ของเราได้ หากท่านประสงค์ที่จะทำการปรับเปลี่ยนการตั้งค่า ท่านสามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากการตั้งค่าของบราวเซอร์ที่ท่านใช้งานอยู่
ทั้งนี้ โปรดทราบว่า หากท่านเลือกที่จะปิดการใช้งานคุกกี้บนเบราว์เซอร์หรืออุปกรณ์ของท่าน อาจส่งผลกระทบกับการทำงานบางส่วนของเว็บไซต์ ของ กลุ่มอินเทคค์ ซึ่งอาจจะไม่สามารถทำงานหรือให้บริการได้เป็นปกติ
กลุ่มอินเทคค์ จะไม่รับผิดชอบต่อผลกระทบหากมีการปิดการใช้งานคุกกี้ ดังที่กล่าวมาข้างบน
สำหรับข้อมูลอื่น ๆ เพิ่มเติมในเรื่องนี้ ท่านสามารถเข้าไปอ่านได้ที่ https://www.aboutcookies.org/how-to-delete-cookies
4. ระยะเวลาการจัดเก็บคุกกี้
เราจะจัดเก็บคุกกี้ของท่าน (ผู้เข้าเยี่ยมชมหน้าเว็บไซต์) ไว้ตามความเหมาะสมของการใช้งานคุกกี้ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละประเภท อย่างไรก็ตามท่านสามารถปรับแต่งการตั้งค่าคุกกี้ได้เองผ่านทางเว็บบราวเซอร์ที่ใช้งานอยู่นี้
5. การเชื่อมโยงข้อมูลกับเว็บไซต์อื่น
เว็บไซต์ของ กลุ่มอินเทคค์ อาจมีการเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียของบุคคลภายนอก รวมถึงอาจมีการฝังเนื้อหาหรือวีดีโอที่มาจากโซเชียลมีเดีย เช่น YouTube หรือ Facebook หรือ instagram และช่องทางมีเดียอื่นๆ เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้ท่านเข้าถึงเนื้อหาและสร้างการปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่นบนโซเชียลมีเดียจากเว็บไซต์ของ กลุ่มอินเทคค์ ได้ ซึ่งเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียของบุคคลภายนอกจะมีการกำหนดและตั้งค่าคุกกี้ขึ้นมาเอง โดยที่ กลุ่มอินเทคค์ ไม่สามารถควบคุมหรือรับผิดชอบต่อคุกกี้เหล่านั้นได้ และขอแนะนำให้ท่านควรเข้าไปอ่านและศึกษานโยบายหรือประกาศการใช้คุกกี้ของบุคคลภายนอกเหล่านั้นด้วย
6. การเปลี่ยนแปลงประกาศฉบับนี้
ประกาศฉบับนี้อาจมีการปรับปรุงให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์และตามการให้บริการจริง โดย กลุ่มอินเทคค์ ซึ่งเนื้อหานโยบายคุกกี้นี้จะถูกปรับปรุงหรือแก้ไขให้เหมาะสมกับรูปแบบและความจำเป็นในการใช้งานคุกกี้ของหน้าเว็บไซต์เรา ท่านสามารถเข้าถึงเนื้อหาของนโยบายคุกกี้ที่เป็นฉบับล่าสุดที่เว็บไซต์ของเราได้ตลอดเวลา จะมีการแจ้งประกาศที่มีการปรับปรุงใหม่บนเว็บไซต์นี้ ดังนั้น กลุ่มอินเทคค์ ขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบให้แน่ใจว่าท่านได้เข้าใจการเปลี่ยนแปลงตามข้อกำหนดดังกล่าวแล้ว
7. การติดต่อกลุ่มอินเทคค์
ในกรณีที่ท่านมีคำถามเกี่ยวกับนโยบายคุกกี้ของกลุ่มอินเทคค์ ท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ที่
-
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer)
- อีเมล: dpo@inteqc.com
- เบอร์ติดต่อ : (66)34 886 132 กด 8
- สถานที่ติดต่อ: 77/12 หมู่ 2 ถ.พระราม 2 ต.นาโคก อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร 74000
8. นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านสามารถดูนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ได้ที่ https://www.inteqcgroup.com/PrivacyPolicy ศูนย์คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ศูนย์คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล :
dpo@inteqc.com
ประกาศนโยบายฯ ผลบังคับใช้ตั้งแต่ 31 พฤษภาคม 2565